admin |
2010-11-27 23:00 |
แนวข้อสอบช้อย ตั่วทนายภาคปฎิบัติ
ผมสรุปไว้ในสมัยที่ 29-31 เอาไว้อ่านเผื่อมีประโยชน์ กฎหมายทหาร • คดีที่ต้องขึ้นศาลทหารคือ กระทำความผิดต่อกฎหมายทหาร หรือกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาซึ่งผุ้กระทำเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารขณะกระทำผิด(ไม่ต้องดูขณะฟ้อง)หรือคดีละเมิดอำนาจศาลทหาร • ศาลทหารแบ่งออกเป็น ศาลทหารชั้นต้น(ศาลจังหวัดทหาร ศาลมณฑลทหาร ศาลทหารกรุงเทพ ศาลประจำหน่วยทหาร) ศาลทหารชั้นกลาง และ ศาลทหารสูงสุด • ทุกจังหวัดให้มีศาลจังหวัดทหาร1 ศาล เว้นแต่จังหวัดนั้นจะมีศาลมลฑลทหาร และทุกมลฑลให้มีศาลมลฑลทหาร 1 ศาลเว้นแต่มลฑลนั้นเป็นที่ตั้งของศาลทหารกรุงเทพ • คดีที่ไม่อยู่ในอำนาจศาลทหารคือ (ให้ศาลพลเรือนดำเนินคดี แต่ถ้ารับฟ้องแล้วต่อมากลายเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารในภายหลัง ศาลพลเรือนก็สามารถดำเนินต่อไปได้) o คดีที่ผุ้กระทำความผิดเป็นทหารและพลเรือนกระทำผิดร่วมกัน (คดีปะปน) o คดีที่เกี่ยวพันกับคดีในศาลพลเรือน o คดีที่ต้องดำเนินในสาลคดีเด็กและเยาวชน • ศาลจังหวัดมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาได้ทุกบทกฎหมาย เว้นแต่กรณีที่จำเลยเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร • ศาลมลฑลทหารและศาลทหารประจำหน่วยมีอำนาจพิจารราพิพากษาคดีอาญาได้ทุกบทกฎหมาย เว้นแต่จำเลยเป็นนายพล • ศาลทหารกรุงเทพมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ทุกบทกฎหมายไม่จำกัดยศ และ ไม่จำกัดพื้นที่ • กระทำผิดในเขตศาลจังหวัดใดให้ฟ้องที่ศาลหารจังหวัดนั้น ถ้ากระทำผิดต่อสังกัดเช่นหนีราชการให้ฟ้องต่อสังกัดมลฑลนั้น ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง • ขั้นตอนของทนายความหลังจากที่เยาวชนถูกจับในคดีอาญา o ดูแลเรื่องการขอปล่อยชั่วคราว (ม.50 ผอ.ได้รับคำร้องต้องรีบสั่งàทนายต้องทำคำร้องถึงผู้อำนวยการสถานพินิจ--àอยู่ในอำนาจของผุ้อำนวยการสถานพินิจ)---- ถ้าไม่อนุญาต ให้ทำคำร้องส่งไปศาลเยาวชนฯàอนุญาต หรือไม่อนุญาต-- ให้อธิบดีเป็นผู้สั่ง คำสั่งอธิบดีถือเป็นที่สุด o ต้องสอบปากคำให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมงแล้วส่งตัวให้ผู้อำนวยการสถานพินิจ (คุมตัวเด็กเกิน24ชั่วโมงไม่ได้) • ม.14 “แม้จำเลยอายุครบ 18ปีบริบูรณ์ บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ศาลก็มีอำนาจพิจารณาต่อไป” • ม.6 “ ให้นำวิ.แพ่ง วิ.อาญา มาใช้บังคับโดยอนุโลม” • ม.11 “อำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัว o 1.คดีอาญาที่เด็กกระทำความผิด o 2. คดีแพ่ง...คดีครอบครัวเกี่ยวกับเยาว์ชนที่ต้องบังคับตามกฎหมายแพ่ง • ม.12 “กรณีคดีใด ควรขึ้นศาลเยาวชน หรือศาลยุติธรรมอื่น ให้ประธานศาลฎีกาเป็นผุ้วินิจฉัย” • ม.13 “คดีใดอยู่ในอำนาจศาลเยาวชน ห้ามศาลอื่นรับพิจาณาคดีนั้นอีก” • ต้องยื่นฟ้องภายใน 30 วันถ้าพ้นกำหนดห้ามฟ้อง ยกเว้นขออนุญาตจากอัยการสูงสุด • อำนาจศาลเยาวชน ให้ถือตามที่อยู่ของเยาวชนไม่ใช่ตามภูมิลำเนา ถ้าเด็กทำผิดร่วมกับผุ้ใหญ่ให้แยกพิจารณาคนละศาล • ผุ้อำนวยการฯเสนออัยการสั่งไม่ฟ้องได้ถ้าโทษไม่เกิน 5 ปี คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการให้เป็นที่สุด • จำเลยจะมีทนายแก้ต่างไม่ได้แต่จะให้มีที่ปรึกษากฎหมายได้ o ไม่ต้องสวมครุย บิดามารดามีสิทธิถามพยานได้โดยผ่านนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ • กรณีเยาวชนทำร้ายผุ้ใหญ่ ห้ามมิให้ผุ้เสียหายฟ้องเยาวชนต่อศาลเยาวชนฯเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก ผอ.สถานพินิจก่อนกรณีอาญาเท่านั้น คดีแพ่งไม่ต้องขออนุญาต ถ้าผอ.ไม่อนุญาตให้ร้องต่อศาล คำสั่งสาลเป็นที่สุด • เรื่องปล่อยชั่วคราว อธิบดีศาลเยาวชนฯเป็นผู้สั่ง แต่ถ้าฟ้องคดีแล้วอำนาจเป็นของศาล • ขออนุญาตฟ้อง ศาลเป็นผุ้สั่ง…ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมไม่ต้องขออนุญาต • คดีอยู่ในเขตอำนาจศาลเยาวชนหรือไม่ ให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัย
แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (องค์คณะ 9 คน ห้ามเป็นผุ้พิพากษาอาวุโสเกิน 3 คน) • การค้นหาความจริงกระทำโดยศาลโดยวิธีไต่สวน โดย ปปช.(9คน)เป็นผู้ชี้มูลความผิด อัยการสูงสุดเป็นผู้ฟ้องคดี • คำถามที่ใช้ในคดีมีแค่ 2 ประเภท คือ คำถามของศาลและคำถามเพิ่มเติม(ไม่มีถามค้าน ถามติง) • บุคคลผุ้นำคดีขึ้นสู่ศาลเรียกว่าผู้เสียหาย(ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการร่ำรวยผิดปกติ หรือ เนื่องจากการที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกระทำผิดอาญา) • วิธีเปิดคดีโดยผู้เสียหาย ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องต่อ ปปช. หรือยื่นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา (ถ้ายื่นต่อที่ประชุมใหญ่ ที่ประชุมจะส่งให้ ปปช.หรือตั้งผู้ไต่สวนอิสระทำก็ได้) • คดีนั้นต้องผ่านการชี้มูลจาก ปปช.(ถ้าไม่ผ่านการชี้มูล ไม่มีอำนาจฟ้อง) • ถ้าคดีมีมูลต้องส่งให้อัยการสูงสุดภายใน 14 วัน อัยการสูงสุดมีเวลา 30 วันเพื่อฟ้องคดี ถ้า อัยการสูงสุดเห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ต้องส่งกลับให้ ปปช.เพื่อตั้งกรรมการร่วม(อสส.+ปปช.) เมื่อกรรมการร่วมเห็นว่าสมบูรณ์สามารถยื่นฟ้องได้เองโดยไม่ต้องส่งไป อสส. อีก • การพิจารณาครั้งแรก(กระทำลับหลังจำเลยได้)พิจารณาว่าควรรับฟ้องหรือไม่ โจทก์จำเลยต้องยื่นบัญชีระบุพยานให้ศาลตรวจ ถ้าไม่โต้แย้งหรือเสนอแนวทาง ในประเด็นใด ศาลจะไม่ไต่สวนเพราะจะยึดของ ปปช. เป็นหลัก • การดำเนินคดีแพ่งเช่นเดียวกับอาญาต่างกันเพียงเมื่อศาลรับคำร้องแล้วต้องประกาศและสำเนาคำร้องให้เจ้าของทรัพย์สินที่เสียหายทราบ • การกล่าวหาว่า ปปช.ร่ำรวยผิดปกติ (ปปช. จะชี้มูลตัวเองไม่ได้) สส+สว ไม่น้อยกว่า 1/5ของทั้งหมดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งฯโดยส่งให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่สั่ง ดดยตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คนทำหน้าที่เหมือน ปปช. พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด • ผลิตหมายความถึง แบ่ง แยก บรรจุ (กำลังบรรจุยาบ้าใส่หลอด ถือว่ามีความผิดฐานผลิตยาเสพติดโทษประหาร • จำหน่ายหมายความถึง จ่าย แจก แลก เปลี่ยน ให้ (เอายาบ้าให้เพื่อนไปเสพมีความผิดฐานมียาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย) • มาตรา 100 เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดเสียเองต้องรับโทษ 3 เท่าของโทษที่กำหนด • มาตรา 100/2 ให้ข้อมูลสำคัญ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าโทษขั้นต่ำของกฎหมายก็ได้ • มาตรา 7 ในกรณีจำเป็นเจ้าพนักงานสามารถปฎิบัติการอำพลาง(ล่อซื้อ)ได้ (ขัดกับหลักดอกผลของต้นไม่พิษ) o การกระทำตามวรรค 1 ต้องได้รับอนุญาตจากศาลยกเว้นกรณีเร่งด่วน • มาตรา 12 สืบพยานลับหลังจำเลยได้ในกรณีจำเป็น • มาตรา 13ในชั้นพิจารณาถ้าจำเลยสารภาพศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานต่อไปก็ได้เว้นแต่ สงสัยว่าจำเลย • ไม่ได้กระทำความผิด หรือความผิดนั้นมีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต • มาตรา 15 ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้อุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์เท่านั้น • มาตรา 17 ถ้าความผิดมีหลายกรรม ถ้ามีการอุทธรณ์เกี่ยวกับยาเสพติด ให้อุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์เท่านั้น แม้ จะมีความผิดอย่างอื่นด้วยและให้สาลอุทธรณืมีอำนาจตัดสินคดีนั้นได้ด้วย • มาตรา 19 ขออนุญาตฎีกาได้โดยทำเป็นคำร้อง ยื่นต่อศาลฎีกา • มาตรา 22 คดีที่โทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต มีอายุความ 30 ปี
กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ • แต่ พรบ.ว่าด้วยธุรกรรมฯถูกจำกัดไม่ให้ใช้กับธุรกรรมครอบครัวและมรดก (พรฎ.ยกเว้นมิให้นำกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมมาใช้ พศ.2549) • การใดที่กฎหมายให้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดง ให้ถือว่ามีหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงแล้ว ถ้าข้อมูลนั้น o เป็นข้อมูลที่เข้าถึงได้ o เป็นข้อมูลที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ o และความหมายไม่เปลี่ยนแปลง • เวลาการส่งข้อมูล ได้แก่เวลาเมื่อข้อมูลนั้นได้เข้าสู่ระบบที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของผุ้ส่ง • สถานที่ส่งหรือรับคือสถานที่ทำงานของผู้ส่งและรับ ถ้ามีหลายที่ให้ถือเอาที่ทำธุรกรรมมากที่สุดถ้ายังกำหนดไม่ได้อีกให้ถือเอาที่อยู่ปกติของผุ้ส่ง-รับเป็นสถานที่ส่งหรือรับ • หลักการสำคัญของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์คือ o คำนึงถึงความครบถ้วนแท้จริงของข้อมูล o ความสามารถในการระบุตัวบุคคล o การห้ามปฏิเสธความรับผิด o ความเป็นกลางทางเทคโนโลยี • ศาลทรัพย์สินทางปัญญาได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปนำร่องใช้เป็นศาลแรก • ระบบลายมือชื่อแบบกุญแจคู่(digital) มี 2 ระบบคือ กุญแจส่วนบุคคล กับ กุญแจสาธารณะ • ระบบกุญแจชีวภาพ ได้แก่ การสแกนลายมือ สแกนม่านตาเป็นต้น
ดูรายละเอียดที่เวบ สภาทนาย
ข้อสอบตั๋วทนายภาคทฤษฎี : ปรนัยประมาณ 20 ข้อคับ.. ส่วนมากเป็นพรบ.ทนายความ พ.ศ. 2528 จะแจกให้ตอนซื้อใบสมัคร ซึ่งออกประมาณ 2-3 ข้อ , วิ.แพ่งจะออกเยอะหน่อย, วิ.อาญา มีออกบ้างแต่ไม่มาก, พระธรรมนูญศาลยุติธรรม และมีอีกหลายวิชา คับ.. และอัตนัย 80 คะแนน ต้องรู้หลักการเขียนและบรรยายฟ้อง ที่ออกแน่นอนและออกประจำก็คือคำฟ้องแพ่ง ประมาณ 35-40 คะแนน , พวกฟ้องอาญาก็มี คะแนนจะรองลงมาอันดับสอง และสุดท้ายคือพวกคำร้อง คำขอ คำแถลง หนังสือบอกกล่าว ต่าง ๆ ซึ่งแนวข้อสอบตั๋วทนาย มีเนื้อหา ที่ใช้ในการสอบภาคทฤษฏี ประกอบด้วย 1.กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2.กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 3.วิธีพิจารณาคดีอาญาในศาลแขวง 4.พระราชบัญญัติทนายความ 5.ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 6.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลภาษีอากร 7.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลล้มละลาย 8.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน 9.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว 10.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ 11.การเขียนคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องคดีแพ่ง 12.การเขียนคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องคดีอาญา 13.การเขียนคำร้อง คำขอ คำแถลง 14.การเขียนหนังสือมอบอำนาจ 15.หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี ข้อสอบตั๋วทนาย รุ่นหลังๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ควรศึกษาข้อสอบเก่า หัดร่างฟ้องแพ่ง-ฟ้องอาญาให้มากๆ คับ จะได้เก่งๆ ข้อสอบตั๋วทนายภาคทฤษฎี : ปรนัยประมาณ 20 ข้อคับ.. ส่วนมากเป็นพรบ.ทนายความ พ.ศ. 2528 จะแจกให้ตอนซื้อใบสมัคร ซึ่งออกประมาณ 2-3 ข้อ , วิ.แพ่งจะออกเยอะหน่อย, วิ.อาญา มีออกบ้างแต่ไม่มาก, พระธรรมนูญศาลยุติธรรม และมีอีกหลายวิชา คับ.. และอัตนัย 80 คะแนน ต้องรู้หลักการเขียนและบรรยายฟ้อง ที่ออกแน่นอนและออกประจำก็คือคำฟ้องแพ่ง ประมาณ 35-40 คะแนน , พวกฟ้องอาญาก็มี คะแนนจะรองลงมาอันดับสอง และสุดท้ายคือพวกคำร้อง คำขอ คำแถลง หนังสือบอกกล่าว ต่าง ๆ ซึ่งแนวข้อสอบตั๋วทนาย มีเนื้อหา ที่ใช้ในการสอบภาคทฤษฏี ประกอบด้วย 1.กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2.กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 3.วิธีพิจารณาคดีอาญาในศาลแขวง 4.พระราชบัญญัติทนายความ 5.ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 6.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลภาษีอากร 7.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลล้มละลาย 8.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน 9.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว 10.วิธีดำเนินกระบวนพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ 11.การเขียนคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องคดีแพ่ง 12.การเขียนคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องคดีอาญา 13.การเขียนคำร้อง คำขอ คำแถลง 14.การเขียนหนังสือมอบอำนาจ 15.หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี ข้อสอบตั๋วทนาย รุ่นหลังๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ควรศึกษาข้อสอบเก่า หัดร่างฟ้องแพ่ง-ฟ้องอาญาให้มากๆ คับ จะได้เก่งๆ
จำหน่ายเอกสารสอบติวสอบทนาย ภาคปฎิบัติ รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ จากหนังสือหลายเล่มไว้ในไฟล์เดียว สนใจสั่งซื้อมาที่ decho.by@hotmail.com รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก ส่งทางอีเมล์เป็นไฟเอกสาร สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 350 บาท กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย บิ๊กซีขอนแก่น decho pragay ออมทรัพย์
โอนเงินแล้วโทรแจ้งที่ 085-0127724
|
|