ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : แนวข้อสอบกรมราชทัณฑ์ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

แนวข้อสอบกรมราชทัณฑ์ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน

1.       ผู้ใดมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้ข้าราชการดำรงตำแหน่งระดับ 8 ในกรมราชทัณฑ์  
ก.      นายกรัฐมนตรี                                   ข.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ค.      อธิบดีกรมราชทัณฑ์                           ง.  ปลัดกระทรวง

คำตอบ  ค.  การบรรจุและแต่งตั้งให้ข้าราชการดำรงตำแหน่งระดับ 8 ให้อธิบดีผู้บังคับบัญชาเป็นผู้มีอำนาจบรรจุและแต่งตั้ง เมื่อได้รับความเห็นชอบจากปลัดกระทรวง

2.       ตำแหน่งที่มีคุณลักษณะบริหารตามที่ ก.พ.กำหนด จะต้องมีการสับเปลี่ยน ย้าย  โอน  เพราะห้ามปฏิบัติ

หน้าที่เดียว ติดต่อกันเป็นเวลากี่ปี

ก.      3  ปี                                                            ข.  4  ปี

ค.      5  ปี                                                            ง.  6  ปี

คำตอบ  ข.  ภายใต้บังคับมาตรา 57  วรรคหนึ่ง  และมาตรา 60  ให้มีการสับเปลี่ยนหน้าที่  ย้าย  หรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9  ระดับ 10  และระดับ 11  ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีลักษณะบริหารตามที่ ก.พ.กำหนด  โดยมิควรให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า   4 ปี  อ.พิพัฒน์-อ.วันนรัตน์
3.       การโอนข้อใดถูกต้อง

ก.      จะทำได้เมื่อผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอม

ข.      แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงกว่าเดิม

ค.      รับเงินเดือนในขั้นที่สูงกว่าเดิม

ง.       ถูกทุกข้อ

คำตอบ  ง.  การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญต่างกระทรวง  ทบวง  กรม  อาจทำได้เมื่อมีผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอม  โดยให้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม และรับเงินเดือนในขั้นที่ไม่สูงกว่าเดิม

4.       ข้อใดไม่ใช่ข้อพิจารณาในการเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการพลเรือน            

ก.      คุณภาพและปริมาณงาน

ข.      ระยะเวลาการรับราชการ

ค.      ความสามารถและความอุตสาหะในการทำงาน

ง.       การปฏิบัติตนที่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ

คำตอบ  ข.  การเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโดยคำนึงถึงคุณภาพและปริมาณงาน  ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน  ความสามารถและความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน  ตลอดจนการรักษาวินัย  การปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ
1.       การกระทำผิดวินัยในข้อใด  ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

ก.      เปิดเผยความลับของทางราชการ

ข.      รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา

ค.      ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่  ข่มเหง  ประชาชนผู้มาติดต่อราชการอย่างร้ายแรง

ง.       ถูกทุกข้อ

คำตอบ  ง.  กระทำผิดวินัย  ที่ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรงได้แก่

1)       การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ (มาตรา 82)

2)       การประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ (มาตรา 84)

3)       การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ (มาตรา 85)

4)       การเปิดเผยความลับของทางราชการ (มาตรา 87)

5)       การขัดคำสั่ง หรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา (มาตรา 88)

6)       การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา (มาตรา 90)

7)       การละทิ้งหรือทอดทิ้งราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร (มาตรา 92)

8)               การดูหมิ่น  เหยียดหยาม  กดขี่  ข่มเหง  ประชาชนผู้มาติดต่อราชการอย่างร้ายแรง (มาตรา 94)

9)       การกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก (มาตรา 98)

2.       ข้อใดไม่ใช่โทษสำหรับข้าราชการที่กระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง

ก.      ภาคทัณฑ์                                        ข.  ตัดเงินเดือน

ค.      ลดขั้นเงินเดือน                                  ง.  ปลดออก      

คำตอบ  ง.  ข้าราชการผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษภาคทัณฑ์  ตัดเงินเดือน  ลดขั้นเงินเดือน

3.       การยับยั้งการอนุญาตให้ลาออก  สามารถยับยั้งได้ไม่เกินกี่วัน

ก.      30  วัน                                             ข.  45  วัน

ค.      60  วัน                                             ง.  90  วัน

คำตอบ  ง.  กรณีที่ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 52  เห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการจะยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน  นับตั้งแต่วันที่ขอลาออกก็ได้

4.       ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งลงโทษตัดเงินเดือน นาย ก.  นาย ก. สามารถอุทธรณ์คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ

หน่วยงานใด

ก.      อ.ก.พ. กรม                                      ข.  อ.ก.พ. จังหวัด

ค.      อ.ก.พ. กระทรวง                                ง.  ก.พ.

คำตอบ  ค.  การอุทธรณ์คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหรืออธิบดีให้อุทธรณ์ต่อ อ.ก.พ.กระทรวง

5.       การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก  ข้อใดถูกต้อง

ก.      อุทธรณ์ต่อ ก.พ. ภายใน 30 วัน

ข.      อุทธรณ์ต่อ อ.ก.พ. กระทรวง ภายใน 30 วัน

ค.      อุทธรณ์ต่อ ก.พ. ภายใน 15 วัน

ง.       อุทธรณ์ต่อ อ.ก.พ. กระทรวง ภายใน 15 วัน

คำตอบ  ก.  การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษปลดออก  หรือไล่ออก ให้อุทธรณ์ต่อ ก.พ. ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง

6.       ข้อใดไม่ใช่ประเภทของข้าราชการพลเรือน

ก.      ข้าราชการพลเรือนสามัญ

ข.      ข้าราชการพลเรือนในพระองค์

ค.      ข้าราชการประจำต่างประเทศพิเศษ

ง.       ไม่มีข้อใดถูก

คำตอบ  ง.  ประเภทของข้าราชการพลเรือนมี 3 ประเภท ได้แก่

1)       ข้าราชการพลเรือนสามัญ

2)       ข้าราชการพลเรือนในพระองค์

3)       ข้าราชการประจำต่างประเทศพิเศษ

7.       การพัฒนาผู้ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการก่อนมอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติมีวัตถุประสงค์อย่างไร

ก.      ให้รู้ระเบียบแบบแผนของทางราชการ

ข.      ให้รู้หลักและวิธีปฏิบัติราชการ

ค.      ให้รู้แนวทางปฏิบัติตนเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี

ง.       ถูกทุกข้อ

คำตอบ  ง.  วัตถุประสงค์ของการพัฒนาผู้ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการ เพื่อ

1)       ให้รู้ระเบียบแบบแผนของทางราชการ

2)       ให้รู้หลักและวิธีปฏิบัติราชการ

3)       ให้รู้บทบาทหน้าที่ของราชการในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

4)       ให้รู้แนวทางปฏิบัติตนเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี
1.       ข้อใดไม่สามารถจะร้องทุกข์ได้

ก.      มีคำสั่งปลดออกจากราชการ    

ข.      ถูกสั่งให้ออกจากราชการ

ค.      เห็นว่าผู้บังคับบัญชาให้อำนาจต่อตนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ง.       เกิดความคับข้องใจอันเกิดจากการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชาต่อตน

คำตอบ  ก.  ปลดออกเป็นโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง  ฉะนั้น  จะต้องใช้วิธีการอุทธรณ์  ไม่ใช่การร้องทุกข์  ส่วนการร้องทุกข์จะใช้ได้ในกรณีดังนี้

1)       ถูกสั่งให้ออกจากราชการ

2)       เห็นว่าผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจต่อตนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

3)       เกิดความคับข้องใจอันเกิดจากการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชาต่อตน

2.       การละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันกี่วัน  จึงจะถือว่าผิดวินัยร้ายแรง

ก.      เกินกว่า  5  วัน                                  ข.  เกินกว่า  7  วัน

ค.      เกินกว่า  15  วัน                                ง.  เกินกว่า  20  วัน

คำตอบ  ค.  การละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า  15  วัน  โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

3.       คุณสมบัติของข้าราชการข้อใดผิด

ก.      มีสัญชาติไทย

ข.      มีอายุไม่ต่ำกว่า  20  ปี

ค.      เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ง.       ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

คำตอบ  ข.  คุณสมบัติของข้าราชการจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า  18  ปี

4.       ข้อใดเป็นเป้าหมายของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ก.      เกิดประโยชน์สุขของประชาชน

ข.      เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ

ค.      มีประสิทธิภาพและเกินความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ

ง.       ถูกทุกข้อ

คำตอบ  ง.  การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้าหมาย ดังต่อไปนี้

1)       เกิดประโยชน์สุขของประชาชน

2)       เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ

3)       มีประสิทธิภาพและเกินความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ

4)       ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น

5)       มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์

6)       ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ

7)       มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ

5.       “บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้ลงโทษ”  หมายถึงข้อใด

ก.      นักโทษเด็ดขาด                                 ข.  คนต้องขัง

ค.      คนฝาก                                            ง.  ไม่มีข้อถูก

คำตอบ  ก.  นักโทษเด็ดขาด  หมายความว่า  บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้ลงโทษ

6.       พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ พ.ศ.2479  มิให้ใช้บังคับในสถานที่ตามข้อใด

ก.      ทัณฑสถาน                                      ข.  เรือนจำพิเศษ

ค.      เรือนจำทหาร                                                ง.  เรือนจำชั่วคราว

คำตอบ  ค.  ตามมาตรา 5 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับถึงเรือนจำทหาร

7.       ใครเป็นผู้มีอำนาจกำหนดประเภทหรือชั้นของเรือนจำ

ก.      รัฐมนตรี                                           ข.  ปลัดกระทรวง

ค.      อธิบดี                                              ง.  ผู้บัญชาการเรือนจำ

คำตอบ  ก.  รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดประเภทหรือชั้นของเรือนจำ  หรือสั่งให้จัดอาณาเขตภายในเรือนจำเป็นส่วน ๆ

  

8.       ข้อใดมิใช่เอกสารสำคัญที่จะทำให้เจ้าพนักงานเรือนจำขังบุคคลเอาไว้ได้

ก.      หมายจับ                                          ข.  หมายขัง

ค.      หมายจำคุก                                      ง.  หนังสือของผู้อำนวยการสถานพินิจ

คำตอบ  ก.  เอกสารของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจให้คุมขังผู้นั้นไว้  ได้แก่  หมายขัง  หมายจำคุก  หนังสือของผู้อำนวยการสถานพินิจ


จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ
ประกอบด้วย
- ความรู้เกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์
- แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์
- เเนวข้อสอบ พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พศ. 2551
- ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน
- แนวข้อสอบ พ. ร. บ. ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา  พ.ศ.2506

- แนวข้อสอบพระราบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา
- แนวข้อสอบ พรบ.พระราชกฤษฎีกาบ้านเมืองที่ดี พศ.2546
- สรุป พรบ.วินัยข้าราชการกรมราชทัณฑ์ พศ. 2482 และจรรยาบรรณข้าราชการราชทัณฑ์
- หลักการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง
- แนวข้อสอบเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับงานราชทัณฑ์
- สรุประเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องกักขัง พ.ศ.2549



ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่  โทร   093-4903924  Line : 093-4903924 **
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย  ในราคาเพียงชุดละ   399 บาท 
ส่งเป็นหนังสือ +MP3 พ. ร. บ. ราชทัณฑ์ ราคา 679 บาท



ชำระสินค้าและบริการ
1.ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนรามคำแหง เลขที่บัญชี 736-2-88576-5 ชื่อบัญชี ศูนย์หนังสือสอบ   โดย สายรุ้ง สิงห์ศรี  
2. ธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก เลขที่บัญชี 180-8-62577-4 ชื่อบัญชี ศูนย์หนังสือสอบ โดย สายรุ้ง สิงห์ศรี
3. ธนาคารกรุงไทย สาขารามคำแหง 65 เลขที่บัญชี 569-0-21243-1 ชื่อบัญชี ศูนย์หนังสือสอบ โดย สายรุ้ง สิงหศรี 
**โอนเงินแล้ว แจ้งเวลา จำนวนเงิน และธนาคารที่โอน พร้อมอีเมล์ หรือที่อยู่มาที่ โทร 093-4903924  Line : 093-4903924 **
อีเมลล์ sheetonlinedotnet@gmail.com

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

สามารถอัพโหลดไฟล์แนบ สำหรับโพสได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้