ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : เก็งแนวข้อสอบครูผู้ช่วยเอกภาษาอังกฤษ
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

เก็งแนวข้อสอบครูผู้ช่วยเอกภาษาอังกฤษ

Direction : Choose the best answer

1.         I had no sooner closed the door ….. somebody started knocking on it.

            a.     that                                                                                     b.     so

            c.     than                                                                                    d.     when

        Answer  c.  เราใช้คำเชื่อม (Conjunction) “no sooner …… than”  ดังนั้นเมื่อมีคำว่า “no sooner…….”       จึงต้องใช้  “than”  คำตอบจึงเป็นข้อ  c.  เท่านั้น

2.         “I don’t like science fiction.”

            “ ……….. do I.”

            a.     Also                                                                                    b.     Either

            c.     Both                                                                                   d.     Nor

            Answer  c.  การกล่าวปฏิเสธเมื่อจะต้องกล่าวซ้ำอีกในประโยคที่ผ่านมาแล้วว่าจะไม่เป็นหรือไม่ทำเช่นนี้ เช่นนั้นอีก เราใช้โครงสร้างที่เป็น  Nor, Neither + กริยาช่วย + ประธาน เช่น  Nor do I.   หรือ Nor do I. หรือ    Neither did he.  ตัวเลือกจึงเป็นข้อ  d.

3.         Either of the women ………capable of looking after the baby.

            a.     are                                                                                      b.     is

            c.     they are                                                                             d.     she is

        Answer b.  การใช้  “Either”  เมื่อใช้ร่วมกับคำนาม (Noun)  หรือคำสรรพนาม (Pronoun)  ที่จะเป็นประธาน (Subject)  จะทำให้มีรูปเป็นเอกพจน์ (ศึกษาจาก  Grammar  เรื่อง  Agreement of Subject and Verb)  ทำให้ในข้อนี้จะต้องมีกริยาเป็นรูปเอกพจน์ จึงเลือกข้อ  b. 

4.         Hurry up ! ……… for you.

            a.     We all wait                                                                        b.     We all waited

            c.     We’ve all waited                                                              d.     We’ re all waiting

        Answer  d.  การใช้ข้อความอุทานมักจะบอกให้รู้ว่า ข้อความที่จะตามมาจะเป็นการเน้นให้เห็น Tense  ที่จะได้ใช้เป็น  Present Continuous Tense  เป็นส่วนใหญ่ (ศึกษาจาก  Tense   เรื่อง Present Continuous Tense  คำตอบจึงเป็นข้อ  d. 

5.         She’s a very selfish woman, but somehow you can’t help …….her.

            a.     liking                                                                                  b.     like

            c.     to like                                                                                 d.     that likes

            Answer  a.  เราใช้กริยา “can’t help”  เพื่อเป็นสำนวนที่แปลว่า  อดไม่ได้ที่จะซึ่งทำให้ต้องเป็นกริยาที่จะมีกรรมมารับ  (transitive Verb)  ตามมา จึงต้องใช้คำนามหรือ  V.ing   ทำให้ตัวเลือกจึงเป็นข้อ  a.

6.         Let’s have dinner together ………next week.

            a.     some time                                                                         b.     sometime

            c.     sometimes                                                                         d.     some times

            Answer a.   เราทราบว่า  “time”  หมายถึงเวลา แต่  “times”  หมายถึง จำนวนครั้งในที่นี้จะต้องแปลว่า เวลาและจะหมายถึงบางเวลา จึงไม่ได้คำขยาย  “some” เขียนติดกัน ตัวเลือกจึงเป็นข้อ a.

7.         The soup tasted ……….

            a.     wonderful                                                                         b.     wonderfully

            c.     wonder                                                                              d.     wondering

            Answer  a.  เราใช้กริยาเชื่อม  (linking Verb)  ที่จะมีคำขยายเป็น Adjective เท่านั้น เว้นแต่ว่า linking Verb นี้ ได้ให้ความหมายที่เด่นชัดหรือมีการเน้นเพื่อจะเป็นกริยาหลัก  (Main Verb)  จึงจะใช้ adverb  มาขยาย ดังนั้น linking Verb  โดยปกติจะใช้  Adjective มาขยายเท่านั้น ตัวเลือกที่เหมาะสมในที่นี้จึงเป็น Adjective  คือข้อ  a. 

8.         Shall we turn  ……… the program ?

            a.     on to                                                                                   b.     at

            c.     in                                                                                         d.     off

            Answer d.   เราใช้สำนวน   “turn off”  หมายถึง ปิด เช่น ปิดโทรทัศน์, ปิดวิทยุ และใช้  “turn on”  หมายถึง เปิด ดังวิธีการเปิดที่กล่าวมาแล้ว เช่น เปิดวิทยุ, เปิดโทรทัศน์ และในข้อนี้จะมีข้อ  d.  เหมาะสมที่สุด

9.         It is extremely important for children ……. to share things.

            a.     learning                                                                             b.     learned

            c.     to learn                                                                              d.     be learning

            Answer  c.   เราใช้คำที่เติมนี้นำไปขยาย “important”  ให้รู้ว่าสำคัญอย่างไร คือ สำคัญที่จะเรียน ทำให้คำที่เติมจะต้องไปขยาย  “important”  ซึ่งเป็นคำ Adjective  และเราทราบว่า  “adverb” จะขยาย “Adjective”  เราเห็นกริยา  “is”  เป็นกริยาช่วย ที่ใช้ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้แล้วทำให้กริยาที่ตามมาจะเป็นกริยาไม่แท้   (Non-Finite Verb)  ซึ่งถ้านำไปใช้เป็น  adverb  ก็จะได้แก่ “important”  และขยาย Adjective “important”  ที่ให้ความหมายเด่นชัด จึงต้องมี      “to”  มาคั่น คำตอบจึงเป็น  “to learn”  ที่ข้อ  c. นั่นเอง

10.      Don’t come and see me today.  I’d rather you …….tomorrow.

            a.     will come                                                                           b.     have come

            c.     came                                                                                  d.     come

            Answer c.   เราใช้กริยาช่วย    “would rather”  เพื่อบอกถึงความไม่จริงในขณะที่พูด เพราะเราแปลว่า อยากที่จะ  ก็จะหมายถึงไม่ได้เป็นอย่างนั้นในขณะที่พูดนั้น ข้อความที่ได้แสดงว่าจะไม่จริง จึงไม่มีโอกาสใช้  Present Tense  เลย เพราะ   Tense  นี้จะต้องเป็นความจริงในปัจจุบันอีกด้วย ทำให้ข้อความที่จะเติมถ้าเป็น   Tense  ก็ต้องเป็น  Past Tense  อย่างเห็นได้ชัด เราใช้โครงสร้างแบบ  Subjunctive  ที่เป็น  Past หรือ  Past Perfect Subjunctive  นั่นเอง  ตัวเลือกจึงพิจารณาที่ข้อ  c.  เท่านั้น

แบบที่ 2  แบบเลือกข้อผิด

Direction : Choose the one that is not correct in English.

11.      In such a selfish society  as ours,  a couple needs to study each other before committing.

                                                                             a.                           b.                 c.

            Themselves to marriage.                                                      

                      d.

        Answer  b.  เราทราบว่าประธานในประโยคนี้คือ  “a couple”  ซึ่งหมายถึง  คู่จะให้ความหมายที่เป็นพหูพจน์ จึงทำให้กริยาที่ตามมาจะเป็นรูปพหูพจน์ไปด้วย โดยที่  “needs” จะต้องไม่เติม “ s ” นั่นคือข้อ “ b”  แก้เป็น   “need”

12.      John, had studied  his lecture notes thoroughly,  was well prepared for the Physics exam.

                      a.                                                                  b.     c.                            d.

            Answer  a.  ในประโยคนี้จะมีกริยาแท้  (K2)  และ K1 (Subject) เพียงอย่างละคำ  เราจะทราบว่ากริยาแท้เมื่อตามหลังประธานจะไม่มีเครื่องหมาย  Comma  คั่นโดยตรง เราจึงใช้เป็นส่วนขยาย ซึ่งในที่นี้จะเป็น   Participial phrase  คือ  “Having studied”  ทำให้ข้อ a.  ต้องแก้เป็นดังที่กล่าวไว้แล้ว

13.      She was thirsty,  so, she refused to drink  any soft drink.

                                 a.       b.                c.        d.

            Answer b.  ในประโยคนี้จะแสดงความขัดแย้งของ 2  main clause  ทั้ง  main clause หน้า และ main clause   หลัง เราจึงควรใช้  “but” แทนคำว่า  “so”  ในข้อ  b.

14.      American architecture is at is best  when  it concerns with  buildings  which have a practical purpose.

                                                               a.                                 b.                                     c.                             d.

        Answer  b.  เราทราบใน  clause  หลังว่าน่าจะใช้เป็น  Passive Voice  เพราะประธาน “ it ”  จะต้องเป็นผู้กระทำ จึงต้องแก้ไขในข้อ b.  เป็น  “ is concerned with”

15.      The ones who have read the book know the answer, but another don’t.

              a.               b.                        c.                                    d.

            Answer  d.  เราใช้  “the ones”  กับ  “the others” เพื่อบอกว่าอย่างหนึ่งหรือคนพวกหนึ่งเป็นอย่างไร      แต่อีกจำนวนหนึ่งซึ่งควรจะชี้เฉพาะในกลุ่มที่เรากล่าวมาแล้วในส่วนแรก “the ones”  จึงทำให้ในส่วนหลังจะต้องเป็น “the others” เพื่อชี้เฉพาะในเรื่องนั้น และเป็นรูปพหูพจน์อีกด้วย จึงเลือกข้อ  d.  โดยแท้เป็น “the others” 

16.      The  scientific revolution of the early 1900’s  affected education by change the nature of technology.

                          a.                                                                  b.                                      c.                                        d.

            Answer c.   คำที่เติมหรือตามหลัง  Preposition จะใช้เป็นคำนามเสียเป็นส่วนใหญ่เพราะ Preposition จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคำนามกับคำอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นคำนามอีกก็ได้ แต่ต้องวางไว้หน้าคำนามเป็นอย่างน้อย และถ้าต้องการที่จะหมายถึงการกระทำที่เน้นอีกด้วย แล้วคำว่า “change”  จะต้องใช้เป็น  “changing”  ทำให้ข้อ  c.  ต้องแก้เป็น   “changing”

17.      Translated into terms of psychological theory, association has been thought of  as the basis  of to learn,

                   a.                                                                                                                             b.                            c.

            conditioning , and creative thinking.

                                               d.

            Answer  c.   เป็นที่ทราบว่า เราใช้คำนามหรือคำสรรพนามหรือ Gerund (V.ing)  ตามหลัง Preposition   เพราะ  Preposition  จะเชื่อมคำนามและคำต่างๆ ดังนั้น ในข้อ c.  จึงต้องแก้เป็น  “learning”.

18.      Farm animals have been regardless  by nearly all societies as a valuable economic resource.

                          a.                                 b.                                                              c.                                   d.

            Answer b.  เราเห็นรูปกริยาในประโยคนี้เป็น  Passive Voice  เพราะต้องทราบว่าประธานจะต้องเป็นผู้ถูกกระทำ จึงทำให้กริยาหลัก  (Main Verb)  จะต้องเป็น  V3  ดังนั้น  “regardless”  จะต้องเปลี่ยนเป็น “regarded” ในข้อ b. นี้ 

19.      The government requires the a census be taken every ten years so accurate statistics may be compiled.

                                                                                      a.                               b.            c.                                    d. 

        Answer  c.  ในประโยคนี้เราใช้คำเชื่อม (Conjunction) ว่า “ so ” ซึ่งบอกถึงผลที่จะได้รับ (so)  เป็น Conjunction of result   แต่จริงๆ ประโยคนี้ต้องการจะบอกถึงความมุ่งหมาย ซึ่งควรใช้ Conjunction of purpose   จึงต้องแก้ข้อ  c. เป็น  “ so that  หรือ in order that” เป็นต้น

20.      The Hall of Fame  at  Newyork  University is a national memorial to United States citizens who have

                                           a.                                                     b.                                                                         c.     

            achieved last greatness.

                  d.

            Answer  d.  การบอกลำดับที่ของตัวเลข  (Ordinal Number)  เช่นที่ 1 หรือที่ 2 เราจะใช้  “ the ” เช่น the first, the second  เป็นต้น และถ้าต้องการจะเน้นคำก็ใช้ในลักษณะเดียวกัน จึงทำให้ข้อ d.  จะต้องมีการใช้    “ the”   ซึ่งเราแก้เป็น  “ the last greatness”  (ความยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย)

แบบที่ 3  แบบถอดความหรือความเข้าใจประโยค

Direction : Choose the best paragraph of the given statement.

21.      The news of her return caused us no little surprised.

            a.     We are not surprised when she returned.                  

            b.     We knew she had returned but were still surprised.

            c.     Her return did surprise us a little.

            d.     We were did surprised when we heard she had returned.

            Answer d.   เราทราบว่า  “little”  จะให้ความหมายเป็นปฏิเสธ (Negative meaning)  และขณะเดียวกันในประโยคนี้ก็มีคำว่า  “no”  อยู่แล้ว จึงทำให้เกิดความหมายของปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ จึงได้ออกมาเป็นบอกเล่า  (Positive statement)  เราจึงรู้ว่าจะไม่เลือกข้อ a.   เพราะเป็นปฏิเสธ เราทราบว่า  “little” จะต้องตรงข้ามกับความหมายที่แปลว่า มากเพราะ “little” แปลว่า  น้อยมากๆดังนั้น  “ no little”  จึงได้ความหมายว่า  มากๆ   ที่คำว่า  “greatly” ในข้อ d. นั่นเอง

22.      Some foreigners find Thai food too hot to eat.

            a.     Some foreigners love to eat Thai food when it is very hot.   

            b.     Some foreigners look for a good place to eat hot Thai food.

            c.     Some foreigners cannot eat Thai food because it is very hot.

            d.     Some foreigners cannot eat Thai food when it is served hot.

            Answer  c.   ความหมายของ  “too …..to”  หมายถึง มากเกินไปที่จะซึ่งให้ความหมายเป็นปฏิเสธ จะเห็นข้อ  a. และข้อ b.  เป็นบอกเล่าจึงไม่เลือก ส่วนข้อ  d. จะมีคำที่เกินความหมายของโจทย์ที่คำว่า  “served”   จึงไม่ควรเลือก ดังนั้น ข้อที่ถูกจึงเป็นข้อ c.

23.      I can’t believe how polluted the air is !

            a.     I  don’t know how the air is polluted.                        

            b.     I don’t believe that polluted air exists here.

            c.     I can’t believe that polluted air exists here.

            d.     I’ m very surprised that the air is so polluted.

            Answer d.   ความหมายในข้อ  a. คือ ฉันไม่รู้.....”  จะไม่ตรงกับโจทย์ที่พูดว่า ฉันไม่เชื่อ…” จึงไม่เลือกข้อ  a. และความหมายของ  can’t  จะไม่เหมือนกับ  “don’t” ในข้อ b.  ส่วนข้อ c. จะมีคำที่ให้ความหมาย  เกินมาคือ  “exists here”  จึงผิด ตัวเลือกจึงเป็นข้อ  d. เพราะ “can’t believe จะเหมือนกับ very surprised”

24.      John is very considerate and also very down-to-earth.

            This means that John . ………

            a.     is practical and sensible .                                                b.     is a very devoted farmer.

            c.     never has good ideas.                                                     d.     is rough and dirty.

            Answer a.   เราอาจจะทราบความหมายกลายๆ ของคำว่า  “down-to-earth”  คือ ลงมาสู่พื้นดินหรือหมายถึงเป็นคนที่ใจเย็นหรือใจอ่อนจึงทำให้ความหมายจะไปในทางดี ซึ่งตัวเลือกข้อ c. และข้อ d.จะต้องตัดทิ้งไปเพราะความหมายที่ได้จะเป็นลบ ส่วนข้อ b.   ก็ให้ความหมายดี แต่จะไม่ตรงกับโจทย์ เพราะคำว่า  devoted จะหมายถึง อุทิศจึงเลือกข้อ  a.  ซึ่งหมายถึงเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเป็นผู้มีอารมณ์อ่อนไหว ชอบช่วยเหลือคนอื่นนั่นเอง (สำหรับคำว่า  “considerate จะหมายถึง เห็นอกเห็นใจหรือนึกถึงคนอื่น

25.      It looks as if his job could be quite dangerous.

            a.     His job was very dangerous.                                        

            b.     His job might be fairly dangerous.

            c.     His job seems to have been quite dangerous.

            d.     His job can look rather dangerous.

            Answer b.   ความหมายของ  “as if”  คือ ราวกับว่าย่อมแสดงถึงการไม่เป็นจริง  (unreal) ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จะตรงข้ามกัน ซึ่งในที่นี้จะเห็นว่า งานของเขานั้นยังจะไม่ถึงกับอันตรายนักคือ ความหมายต้องตรงกันข้ามกับโจทย์ ซึ่งตัวเลือกที่เข้าลักษณะนี้จะเป็นเพียงข้อ b.   เท่านั้น เพราะ  “might หมายถึง อาจจะ            จึงแปลว่า ยังไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ดังที่โจทย์เป็นอยู่ จึงเลือกข้อ  b.

26.      Military service used to be compulsory in Britain, but now it is voluntary.

            a.     Military service in Britain is no longer optional.       

            b.     British men now do not have to volunteer for military service.

            c.     The British armed forces now depend on volunteers.

            d.     It is now incumbent on British men to join the army.

            Answer c.   ในประโยคนี้ได้พูดถึงการเกณฑ์ทหาร สมัยก่อนเคยเป็นการบังคับในประเทศอังกฤษ แต่ตอนนี้จะเป็นเรื่องของการสมัครใจ คำตอบจึงเลือกข้อ c.   ที่ใช้คำว่า  “depend on”  คือ ขึ้นอยู่กับหรือการสมัครใจนั่นเอง  แต่ขณะที่ข้อ  a.  บอกถึงคำว่า ไม่มีการให้เลือกได้อีกต่อไปข้อ  b.  จะพูดถึงการไม่ต้องสมัคร   ซึ่งจะผิดและข้อ d. พูดถึงการเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องเป็นทหาร

27.      The girl was just not strong enough to have broken the box.

            a.     The box was not broken because the girls was very weak.

            b.     Someone else not the girl, broke the box.

            c.     The girl wasn’t strong but she broke the box.

            d.     The girl, though quite strong, didn’t break the box.

            Answer b.   ความหมายที่ได้บอกถึงการที่ผู้หญิงจะไม่มีความแข็งแรงพอที่จะทำให้กล่องนั้นหักไปได้ เพราะอาจจะมีความแข็งมากเป็นพิเศษ ดังนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วจะไม่สามารถทำกล่องให้แตกหรือหักได้ จึงไม่เลือกข้อ c. เพราะให้ความหมายตรงกันข้ามกับโจทย์คือ ผู้หญิงทำกล่องแตกหักได้ ส่วนข้อ d.  จะเห็นว่า ถึงแม้ว่าแข็งแรงพอจะทำให้ผิดความหมายไปเลย เพราะโจทย์บอกผู้หญิงไม่แข็งแรงพอ สำหรับข้อ a.    ที่ว่า เพราะผู้หญิงอ่อนแอมากเกินไป ก็ยังไม่ตรงกับความหมายมากนัก คืออาจจะอ่อนแอหรือไม่แข็งแรงเท่านั้น แต่ไม่มากมายเหมือนความหมายของข้อ  a.   นี้จึงผิดอยู่เล็กน้อย จะต้องเลือกข้อ b.   ที่กล่าวเป็นกลางๆ ที่ว่า ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วจะไม่สามารถทำกล่องให้หักได้  กล่าวคือจะทำได้ถ้าเป็นแต่เพียงที่ไม่ใช่ผู้หญิง

28.      By next August Charles will have worked here for seven years.

            From this sentence it is true to say that ………….

            a.     Charles no longer works here.                                     

            b.     Charles has now worked here for seven years.

            c.     Charles is going to work here for the next seven years.

            d.     Charles is at present working here.

            Answer d.   การใช้ Present Perfect Tense จะบอกถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นจากอดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และในประโยคนี้ไม่ได้เป็นปฏิเสธจึงไม่เลือกข้อ a.  ส่วนข้อ  c. มีการใช้ “to be going to” หรือ  “is going to”   ซึ่งบอกความหมายถึงอนาคต (ความหมายจึงเท่ากับ will  คือจะ) แต่เราเห็นว่าในโจทย์ข้อนี้เป็นอนาคต เพราะมี  “will”  ก็ตาม และใช้เป็น Future Perfect Tense  ซึ่งมีการกำหนดเวลา อันจะบอกว่าในอนาคตบุคคลผู้นี้จะทำงานอยู่ที่นี้ครบ 7 ปี ทำให้ตีความได้คล้ายกับ Present Perfect Tense เหมือนที่อธิบายไว้ในตอนแรก จึงแปลว่า ตอนนี้เขายังทำงานอยู่ที่นี่  ซึ่งข้อ b.   บอกว่า ครบ 7 ปีแล้วในตอนนี้จึงผิดเพราะจะไปครบในช่วงเดือนสิงหาคมหน้า และข้อ c.  จะผิดที่มี  “the next” อันจะบอกถึง 7 ปีถัดไป ไม่ใช่ที่จะถึงในคราวหน้านี้ ทำให้ตัวเลือกจึงเป็นข้อ  c. เพราะตอนนี้สรุปได้ว่าก็ยังทำงานอยู่นั่นเอง

29.      Edward was frozen out of the business by competition.

            a.     Edward did not succeed in business because of the competition.

            b.     Edward was very cold because of his working very hard in business.

            c.     The weather was so cold that Edward could not run his business.

            d.     Edward failed because his business was frozen buy the competition.

            Answer a.   ความหมายของ  “to be frozen out of” ไม่น่าจะแปลว่า  เย็นจนแข็งหรือเย็นมากเพราะมีการกล่าวถึงเรื่องธุรกิจและการแข่งขัน จึงน่าจะแปลว่า ความไม่สำเร็จเพราะมีการใช้  “out of”  คือ ออกไปจากหรือหลุดออกจาก จึงต้องแปลงเป็นลบ ซึ่งตัวเลือกข้ออื่นจะแปลว่า หนาวเย็นแต่ข้อ a. จะแปลถึง ความไม่สำเร็จ จึงเลือกข้อ a. นี้

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบครูผู้ช่วยเอกภาษาอังกฤษ  ใหม่ล่าสุด

รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ

- แนวข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์

- แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย

- แนวข้อสอบความรอบรู้ชุดที่ 1-4

แนวข้อสอบวิชาชีพครูชุดที่ 1-4

- แนวข้อสอบวิชาการศึกษาชุดที่ 1-4

- สรุปนโยบายของคณะรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

- แนวข้อสอบวิชาวิชาเอกอังกฤษ ชุด 1-3

- แนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ การใช้ Grammar

- แนวข้อสอบ Conversation
- แนวข้อสอบ ประโยคแสดงเงื่อนไข

- แนวข้อสอบอังกฤษ Reading


สนใจสั่งซื้อมาที่ 080-604-2510 ,080-604-2504 หรือ ส่ง SMS / (WhatsApp , LINE)
ส่งเป็นไฟล์เอกสารส่งทางอีเมล์ สามารถนำไปปริ้นเพื่ออ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
ส่งเป็นไฟล์เอกสารทางอีเมล์ *อย่างด่วนภายใน 3 ชม. *อย่างช้าก่อน 24:00 น. ของวันที่โอนเงิน (อย่าลืม! เช็คที่ อีเมลขยะ)
(เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 - 24.00 น.)
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 041-2-34899-2 ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ สาขาถนนสาธุประดิษฐ์ ชื่อบัญชี สายรุ้ง สิงห์ศรี

โอนเงินแล้วแจ้งที่ lookmoo_00@hotmail.com

 

 

 

 

 

 

 

 

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

30.      He needn’t have submitted that report.

            a.     He  submitted that report because it was necessary.

            b.     He  didn’t submit that report, but he should have.

            c.     He submitted that report, but it wasn’t necessary.

            d.     a.  and  b.  correct.

            Answer c.   ความหมายของโครงสร้างที่ว่า   (“V  ช่วย + have + V3”  จะบอกถึงการเป็น  Past unreal  คือ ไม่จริงในอดีต และโจทย์จะมี  “not”  เป็นปฏิเสธ จึงทำให้ได้ความว่าต้องเป็นโครงสร้างของปฏิเสธ       ซ้อนปฏิเสธ จึงได้เป็นบอกเล่า  เราได้ความหมายว่า เขาได้ส่งรายงาน .........”  จึงเหลือตัวเลือกข้อ a.   และข้อ   c.   แต่ข้อ a.  บอกถึงความจำเป็นว่าต้องส่งรายงานในขณะที่โจทย์ใช้คำว่า  “ needn’t ”  ซึ่งแปลว่า           ไม่จำเป็นทำให้ตัวเลือกเป็นข้อ c. นั่นเอง

 

แบบที่ 4  แบบเติมคำศัพท์                                                                

Direction  :  Complete the following passage with the given words.

Passage 1

            Blood has been called “the river of life”  It could also be called “the living river” About 31. blood in the human body is made of  32.  cells that take food and oxygen to the tissues of the body and  33. waste products. The other half is a yellowish liquid called plasma. Substances in the blood also fight germs that  34.  the body and cause disease.

            The  heart pumps blood through the body.  Blood flows from the heart to the lung, where it  35.  a waste products, the gas carbon dioxide, that it  36.  from the body.  This gas is greeted  out and,  37,. The blood picks up fresh oxygen.  Blood then returns to the heart,  which pumps it through the arteries to 38.,  Along the way, the blood delivers oxygen to all the cells of the body and collects combos dioxide from the cells.  The blood returns of the heart 39.  The veins.  The whole  40.  is repeated.

 

31.      a.     half of the total amount of                                            b.     half of the total number of

            c.     the half total amount of                                                 d.     the  half total number of

            Answer a.   คำว่า  ครึ่งหนึ่ง” (half) เรามักจะไม่ใช้  article  “the”  และคำนามที่นับไม่ได้จะต้องใช้ “amount of”  ไม่ใช่  “number of”  ที่ใช้กับคำนามที่นับได้ ทำให้ตัวเลือกจะเป็นข้อ a. ซึ่งเราจะแปลว่า  ประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกายของคน.....”

32.      a.     alive                                                                                    b.     living

            c.     lively                                                                                  d.     live

            Answer b.   เราใช้  Non-Finite Verb  ประเภท  Participle  คือใช้เป็น  adjective เพื่อขยายคำนามในที่นี้  “cells”  จะมีคำมาขยาย จึงใช้รูปของ  Participle  เพื่อบอกว่าหน้าที่ของ  cells  จะเป็นลักษณะที่มีชีวิต คือไม่ใช่  cells  ที่ถูกทำให้ตายไปแล้ว ทำให้ Participle  ที่ใช้ขยาย  cells  จึงต้องเป็น  Present Participle หรือ  รูป   V. ing    นั่นเอง ตัวเลือกจึงเป็นข้อ  b.

33.      a.     carry  through                                                                  b.     carry out

            c.     carry off                                                                            d.     carry on

            Answer c.   การใช้กริยาที่เป็นสำนวนในที่นี้จะต้องใช้กริยาที่แปลว่า  นำออกมา, ฆ่าในข้อ c.  จึงได้ให้ความหมายที่ถูกต้อง เพราะคำอื่น เช่น   carry out หมายถึง ดำเนินการหรือสำเร็จ และ carry on หมายถึง ดำเนินต่อไปก็จะไม่ได้ความหมายตรงกับข้อความที่จะเติม ส่วน  carry  through  จะไม่มีความหมายโดยตรงกับโจทย์ที่ให้มา จึงต้องเลือกข้อ c.

34.      a.     invade                                                                                b.     attack

            c.     assault                                                                                d.     interfere

            Answer a.   ความหมายของคำที่นำมาใช้ในส่วนนี้จะต้องแปลว่า บุกรุกเพราะในข้อความมีคำว่า ต่อสู้   (fight)  จึงเลือกข้อ a.  ส่วนคำว่า  “attack”  หมายถึง โจมตี คำว่า  “assault”  หมายถึง โจมตี, ข่มขืน, ทำลาย และคำว่า  “interfere”  หมายถึง เกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยว

35.      a.     gives in                                                                              b.     gives out

            c.     gives away                                                                        d.     gives up

            Answer  d.   ความหมายที่ได้ในข้อความนี้จะต้องใช้คำศัพท์ที่แปลว่า ทิ้งไปหรือยุติหรือเลิกดังในข้อ  d.  เพราะว่าหัวใจจะมีหน้าที่นำเลือดที่ดีผลักดันไปสู่การให้ร่างกายได้ใช้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ต่อไป แต่เลือดที่ไม่ดีก็จะถูกนำไปทิ้งหรือฟอกใหม่อีกครั้ง ซึ่งคำตอบจะตรงกับข้อ  d.   ส่วนคำว่า “give in”  หมายถึง    ยอมแพ้ คำว่า  “give out”  หมายถึง ปล่อย หรือแจกจ่าย และคำว่า “give away” หมายถึง ยกให้หรือเสียสละ

36.      a.     collected                                                                            b.     is collected

            c.     has collected                                                                     d.     has been collected

            Answer c.   การใช้โครงสร้างในประโยคนี้จะต้องเป็น  Present Perfect Tense  ที่เป็น  Active Voice            

เพราะเป็นกระบวนการของร่างกายที่ดำเนินเรื่อยมาโดยตลอด โดยที่มีร่างกายโดยตลอด โดยที่มีร่างกายเป็นผู้กระทำหรือดำเนินการให้อวัยวะต่างๆ ทำงานเรื่อยมา จึงทำให้ต้องใช้  Tense  ดังกล่าวนี้ ตัวเลือกที่ได้จึงต้องเป็นข้อ  c.  เท่านั้น

37.      a.     exchange                                                                           b.     changes

            c.     in exchange                                                                      d.     changed

            Answer c.   ความหมายที่ได้ในข้อมูลนี้น่าจะหมายถึง  ในลักษณะเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเป็นการใช้โครงสร้างในรูปของวลีในประโยคนี้ จะทำให้ได้ข้อความที่ชัดเจนกว่าการใช้คำเพียงคำเดียว ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดจึงต้องทำให้เลือกข้อ c.  นั่นเอง

38.      a.     the whole body                                                                b.     the whole bodies

            c.     whole body                                                                       d.     whole bodies

            Answer a.   ความหมายที่ได้ในประโยคนี้จะบ่งบอกถึงการใช้รูปคำและความหมายที่ชี้เฉพาะเจาะจงว่า ร่างกายทั้งหมดนี้เท่านั้น  และหมายถึงร่างกายของคนเราเพียงคนเดียว ตัวเลือกที่ดีที่สุดจึงเป็นข้อ a.  เท่านั้น

39.      a.     by                                                                                       b.     through

            c.     by way                                                                               d.     by means

            Answer b.   ความหมายที่เกิดขึ้นในข้อนี้จะหมายถึงการที่ร่างกายนำเลือดไปสู่หัวใจโดยผ่านเม็ดโลหิตดำ เพื่อเป็นการสร้างกลไกและการทำงานของโลหิตที่เกิดจากอวัยวะดังกล่าว ทำให้ต้องใช้คำเชื่อมหรือ  Preposition  ที่เป็นความหมายให้เกิดการเคลื่อนที่ในลักษณะที่ผ่านมาหรือผ่านไปจึงต้องใช้ข้อ b.  เท่านั้น

40.      a.     processing                                                                         b.     proceed

            c.     process                                                                              d.     proceeding

            Answer c.   ความหมายในข้อนี้ต้องใช้คำนามที่เป็นประธานคือข้อ c.  เท่านั้นที่จะแปลว่า  กระบวนการจึงจะได้ความหมายที่ถูกต้อง ส่วนข้อ  a.  แปลว่า  กระบวนการ  จึงจะได้ความหมายที่ถูกต้อง ส่วนข้อ a.แปลว่า  ขบวนแห่ข้อ  b. เป็นคำกริยา หมายถึง ดำเนินการหรือคำนามที่แปลว่า การดำเนินการ และข้อ d.จะใช้ในรูปแบบที่คล้ายกับข้อ  b. ซึ่งให้ความหมายเหมือนข้อ  b. ในแบบเดียวกัน จึงเลือกข้อ c.

41.      Since his mother left, the little boy ....… for fifteen minutes.

            a.     cried                                                                                   b.     has been cried

            c.     had cried                                                                           d.     has been crying

            Answer d.   ใช้ Present Perfect Continuous Tense (s. + has/have + been + V.ing)  เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและค่อนข้างแน่นอนว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต โดยมักมีคำบอกเวลา  “for/since”

42.   ............... Roti a kind of Thai food ?

            a.     Has                                                                                     b.     Have

            c.     Are                                                                                     d.     Is

            Answer d.    สามารถใช้  “is / am / are” เป็น  v.  แท้ในความหมาย   เป็น/อยู่/คือในประโยค Present Simple  Tense  โดยผันให้สอดคล้องกับประธาน และเมื่อทำเป็นประโยคคำถามประเภท ”Yes / No Question”  จะวางคำเหล่านี้ไว้หน้าประโยค

43.      I’ m  tried.  I ………. To bed right now.

            a.     have gone                                                                         b.     would go

            c.     am going                                                                           d.     goes

            Answer c.   ใช้  Present  Continuous Tense  (s. + is / am / are + V.ing)  แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้และค่อนข้างแน่นอน โดยมักมีคำบอกเวลาแสดงอนาคต เช่น   “tomorrow, soon, tonight, in one minute, in a few minute, in a few minutes, next week ”

44.      Her nose is ………………and ………………….

            a.     more pointed ; more perfect                                         b.     pointed ; perfect

            c.     pointed ; more perfect                                                   d.     more pointed ; perfect

            Answer b.   คำคุณศัพท์  (adj.)  ที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้วจะไม่มีการเปรียบเทียบ (ไม่มีการเติม –er   หรือ  most) ได้แก่

 

                    Circular           entire              factual              immoral perfect             square

                   Dead               equal               false                  moral                              round            true

 

45.      Dara is the oldest student……………..

            a.     than the one                                                                      b.     in her class

            c.     among others                                                                   d.     between the four

            Answer b.   การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ในชั้นสูงสุดเป็นการเปรียบเทียบระหว่างประธานกับกลุ่มคน สัตว์ หรือสิ่งของ ในบริเวณหนึ่งหรือเวลาหนึ่ง โดยมีโครงสร้าง ดังนี้

 

                                  n. l + be / linking v. + the + adj. + est / most + adj. + in place / in time 

 

46.      On the day of the accident, everybody ……………  to go upcountry.

            a.     would prepare                                                                  b.     was  preparing

            c.     had been prepared                                                          d.     preparing

            Answer b.   ใช้  “Past Continuous Tense (s. + was / were  + v. ing) บอกเล่าเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต โดยมักจะมีคำบอกเวลา เช่น  this time last night / week / month / year, st 11’ o’clock last night, this time yesterday

47.      That sports car has stopped ;  it ……………. of gasoline.

            a.     has run out                                                                        b.     ran out

            c.     will run out                                                                       d.     is running out

            Answer a.   ใช้  Present  Perfect Tense (s. + has / have + v.3)  กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้ว   แต่ก็ยังคงเห็นผลการกระทำต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

48.      Daisies ……….. in the meadows in the country.

            a.     has grown                                                                         b.     Grow

            c.     is growing                                                                         d.     Grew

Answer  b.  ใช้ Present Simple Tense (s. + v. ผันตาม s.) แสดงข้อความที่เป็นจริงโดยธรรมชาติหรือ      โดยทั่วๆ ไป ตลอดจนสุภาษิตและคำพังเพย

49.      She thinks her mother ……… the gift I bought for her.

            a.     will like                                                                              b.     will be liked

            c.     will have liked                                                                  d.     Would like

Answer  d.   ใช้  Past Simple Tense (s. + v.2) เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยไม่จำกัดเวลา    ซึ่งบางครั้งจะมีคำหรืออนุประโยคที่แสดงถึงเวลาในอดีตกำกับอยู่ด้วย

50.      He had done his laundry before he ……… TV.

            a.     watched                                                                             b.     had been watched

            c.     watching                                                                           d.     was watching

Answer a.   ใช้  Past Perfect Tense (s. + had + v.3) คู่กับ Past Simple Tense (s. + v.2) เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน โดยใช้ Past Perfect กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อน และใช้ Past Simple กับเหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง ซึ่งมักจะมีคำเชื่อมบอกเวลาอยู่ด้วย

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้