ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : การเตรียมตัวก่อนสอบเจ้าหน้าที่การทูต
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

การเตรียมตัวก่อนสอบเจ้าหน้าที่การทูต

การเตรียมตัวก่อนสอบ

1. ในส่วนของข้อเขียน ขอแนะนำให้อ่านหนังสือพิมพ์ให้เยอะ ๆ โดยเฉพาะ Nation และ Bangkok Post ดิฉันรับหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับนี้ ในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนสอบค่ะ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่ได้มีการเขียนเตรียมล่วงหน้ามาก เพื่อให้ up-to-date ยกเว้นอะไรที่เป็น major event และส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ มาก ก็คงมีการกล่าวถึงบ้าง

2. อ่านแม็กกาซีนข่าวภาษาอังกฤษ เช่น Newsweek Economist เพื่อศึกษาแนวและวิธีการเขียน essay หรือบทความดี ๆ ให้เราชิน และหารูปแบบการวิเคราะห์ที่ชอบ เพื่อพัฒนาแนวทางการเขียนคำตอบให้อ่านเข้าใจอ่าน และมองเห็น development ของ theme อย่างชัดเจน

3. ฟังข่าวภาษาไทย ในวันสอบดิฉันยังฟังข่าวในวิทยุอยู่เลย และมันก็ช่วยได้มากทีเดียว เพราะมันทำให้เราเข้าใจความคิดของคนไทยต่อข่าวต่าง ๆ ได้ (จากการฟังความเห็น) ประมวลกับข่าวที่เราอ่านฉบับภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ความรู้แน่นปึ๊กค่ะ

4. ลองทำแบบฝึกหัดข้อสอบเก่า ๆ และจับเวลาดูว่าในระยะเวลาที่จำกัด เราสามารถประมวลความคิดของตัวเองออกมาได้มากแค่ไหน สมัยที่ดิฉันเตรียมตัวก่อนสอบ ดิฉันจะจับเวลาการเขียนคำตอบแต่ละข้อประมาณ 1 ชั่วโมง และลองตั้งนาฬิกาดู อันนี้ เป็นประโยชน์มากนะคะ เพราะบางที ในเวลา 1 ชั่วโมง ถ้าเราประมวลความคิดเราเร็ว ๆ ไม่ได้ เริ่มเขียนช้า ก็จะทำข้อสอบไม่ทันค่ะ การฝึกฝน ทำให้เราสามารถคิดอะไรได้มากขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด

1.      พรรคการเมืองฝ่ายค้านของพม่า ซึ่งนำโดยนางออง ซาน ซู จี มีชื่อย่อว่าพรรคอะไร

         ก.   พรรคเอ็มแอลดี                                                            ข.   พรรคเอชดีแอล

         ค.   พรรคบีแอลดี                                                                ง.    พรรคเอ็นแอลดี

         ตอบ  ง.  พรรคเอ็นแอลดี

2.      ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนปัจจุบัน คือ

                ก.    นาย เจิงอินเฉวียน         ข.  นายเลออน  บริดตัน

         ค.   นายคริส  แพทเทน       ง.นายเกลน เฟรย์

         ตอบ  ก.นาย เจิงอินเฉวียน

3.      ผู้นำชาวเซิร์บในบอสเนีย ที่ศาลโลกกำลังต้องการตัว เพื่อดำเนินคดีข้อหาเป็นอาชญากรสงคราม คือ

         ก.   นายอลิยา อิเซทเบโกวิท                                             ข.   นายราโควาน คาราดซิก

         ค.   นายฟรานโย ทุจมาน                                                  ง.    นายสโลโบดาน มิโลเซวิด

         ตอบ  ข.  นายราโควาน คาราดซิก 

4.      ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีใด

         ก.   ค.ศ. 1989                                                                      ข.   ค.ศ. 1990

         ค.   ค.ศ. 1992                                                                      ง.    ค.ศ. 1995

         ตอบ  ก.ค.ศ. 1989

5.      รัฐมนตรีว่าการการต่างประเทศของไทยคนปัจจุบันได้แก่

ก.นายสาโรจน์ ชวนะวิรัช

ข.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์

ค. นายกษิต ภิรมย์

ง. ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล

ตอบ  ง. ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล

 

6.      ผู้ใดเป็นผู้ที่ประพันธ์หนังสือชื่อ “Magatrends Asia”

         ก.   นายจอห์น  เนสบิตต์                                                   ข.   นายบิล  เกตส์

         ค.   นายอัลวิน  ทอฟฟ์เลอร                                              ง.    นายปีเตอร์  ดรักเตอร์

         ตอบ  ก.  นายจอห์น  เนสบิตต์ 

7.      นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบันของประเทศอินเดีย ได้แก่ ....

         ก.   นายนาราชิมหา ราว                                                    ข.   นาย มานโมฮัน ซิงห์

         ค.   นายเยาวหะราลห์ เนห์รู                                             ง.    นายฟิหารี วัชปายี

         ตอบ  ข.  นาย มานโมฮัน ซิงห์

8.      ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติคนปัจจุบัน ได้แก่ .....

         ก.   นายนายยิตซัก  อาเมียร์                                               ข.   นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส

         ค.   นายริวทาโร่  ฮาซิโมโตะ                                            ง.    นายยาซิซิ อะกาชิ

         ตอบ  ข.  นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส

9.      นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนปัจจุบันคือ

         ก.   นายซิมอน  เปเรส                                                        ข.   นายยาสุฮิ อาหมัด

         ค.   นายเบนยามิน เนตันยาฮู                                            ง.    นายยิกัลป์  อาเมียร์

         ตอบ  ค.  นายเบนยามิน เนตันยาฮู

10.    บุคคลใดเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ประจำปี ค.ศ. 2010

         ก.   นายหลิว เสี่ยวปอ                                                        ข.   นางออง ซาง ซูจี

         ค.   นายจิมมี่  คาร์เตอร์                                                       ง.    นายอัสเซอร์  อาราฟัด

         ตอบ  ก.  นายหลิว เสี่ยวปอ

11.    การประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์การค้าโลก (WTO) ครั้งแรกที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้มีกำหนดจัดขึ้น

         ที่ประเทศใด

         ก.   สวิตเซอร์แลนด์                                                           ข.   สิงคโปร์

         ค.   ฟิลิปปินส์                                                                      ง.    ลักเซมเบอร์ก

         ตอบ  ข.  สิงคโปร์

12.    เลขาธิการองค์การสหประชาชาติคนปัจจุบันเป็นชาวอะไร

         ก.   ชาวโรมาเนีย                                                                ข.   ชาวอินเดีย

         ค.   ชาวโมรอคโค                                                               ง.    ชาวเกาหลีใต้

         ตอบ  ง.  ชาวเกาหลีใต้

 

 

13.    เลขาธิการองค์การสหประชาชาติคนปัจจุบันมีชื่อว่า

ก.     บูทรอส บูทรอส-กาลี

ข.     เคิร์ท วัลไฮม์

ค.     โคฟี อันนัน

ง.   บัน คี มูน

ตอบ  ง.   บัน คี มูน

14.    ภาคีของข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการพัฒนาแบบยั่งยืนของลุ่มแม่น้ำโขงประกอบด้วย

         ประเทศต่อไปนี้

ก.     ประเทศอินโดจีนและอาเซียน

ข.     ประเทศไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า และจีน

ค.     ประเทศไทย เวียดนาม ลาวและกัมพูชา

ง.     ประเทศไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา และ UNDP

ตอบ  ก.  ประเทศอินโดจีนและอาเซียน

15.    สถานภาพของขุนส่า

         ก.   ถูก SLORC  จับตัวไปทำโทษแล้ว

         ข.   ขุนส่าได้วางอาวุธหยุดการต่อสู้กับ SLORC แล้ว

         ค.   ได้ลี้ภัยมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว

         ง.   ถูก CIA  จับตัวไปขึ้นศาลสหรัฐแล้ว

         ตอบ  ข.  ขุนส่าได้วางอาวุธหยุดการต่อสู้กับ SLORC แล้ว

16.    สถานภาพของ WTO  ปัจจุบันคือ

         ก.   มหาอำนาจทุกประเทศเป็นสมาชิก

         ข.   สหรัฐเป็นผู้นำต่อต้านมิให้จีนเข้าเป็นสมาชิก

         ค.   จีนเองไม่สนใจที่จะเป็นสมาชิก

         ง.   ไต้หวันเป็นสมาชิกแทนจีนอยู่แล้ว

         ตอบ  ข.  สหรัฐเป็นผู้นำต่อต้านมิให้จีนเข้าเป็นสมาชิก

17.    สถานภาพของจีนใน APEC

         ก.   ทั้งจีน ไต้หวันและฮ่องกง ล้วนเป็นสมาชิก โดยใช้ชื่อ People’s Republic of China,

                Republic of China และ Hong Kong ตามลำดับ

         ข.   ทั้งจีน ไต้หวันและฮ่องกง ล้วนเป็นสมาชิก โดยใช้ชื่อว่า People’s Republic of China,

                Taipei China และ Hong Kong ตามลำดับ

ค.     เฉพาะจีน และไต้หวันเป็นสมาชิก โดยใช้ชื่อว่า China และ Taiwan ตามลำดับ

ง.     สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นสมาชิกแต่เพียงประเทศเดียว

         ตอบ  ข.  ทั้งจีน ไต้หวันและฮ่องกง ล้วนเป็นสมาชิก โดยใช้ชื่อว่า People’s Republic of China,

                          Taipei China และ Hong Kong ตามลำดับ

18.     เมืองหลวงของประเทศลิเบียคือ

         ก.   กรุงตริโปลี

         ข.   กรุงแบกแดด

         ค.   เมืองเนวปูลี

         ง.    กรุงตริโปเลีย

       ตอบ  ก. กรุงตริโปลี

19.    หมู่เกาะพาราเซลปัจจุบันอยู่ภายใต้การครอบครองของประเทศใด

         ก.   เวียดนาม                                                                       ข.   ฟิลิปปินส์

         ค.   จีน                                                                                  ง.    ญี่ปุ่น

         ตอบ  ค.  จีน 

20.    มติล่าสุดของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการใช้เงินตราสกุลเดียวกันมีดังนี้

         ก.   เลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด

         ข.   จะให้ชื่อของเงินตราในการประชุมคราวต่อไป

         ค.   จะให้มีผลใช้บังคับสมบูรณตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545

         ง.   จะใช้เงินตราสกุลเดียวกันแล้วชื่อว่า Euro  ตั้งแต่ 1 มกราคม 2539

         ตอบ  ค.  จะให้มีผลใช้บังคับสมบูรณตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบนักการฑูตปฏิบัติการ กระทรวงต่างประเทศ ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ  และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก  

      ส่งทางอีเมล์เป็นไฟเอกสาร
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย  ในราคาเพียงชุดละ   399 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย

 บิ๊กซีขอนแก่
decho pragay  ออมทรัพย์
โอนเงินแล้วแจ้งที่  decho.by@hotmail.com

สนใจสั่งซื้อมาที่  โทร 085-0127724

 

 

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 
เมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ทางกระทรวงต่างประเทศได้จัดสอบนักการทูตปฏิบัติการ 3 และ 4 ซึ่ง ตัวกระผมเองก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่ไปลิ้มรสบรรยากาศการสอบที่ผ่านมา จึงอยากนำเรื่องราวมาเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์ให้ใครหลายๆคน ที่จะได้ทราบเเละได้เตรียมตัวสอบได้อย่างถูกต้อง

       ในการสอบนั้น ตัวผมเอง ก็ได้สอบในการสอบของนักการทูตระดับ 3 ผมขอเริ่มต้นเล่าที่บรรยากาศในสถานที่สอบ ก่อนก็แล้วกัน ว่าในปีนี้ 2552 จักให้มีการสอบที่ ร.ร. สุรศักดิ์มนตรี ใกล้กับ ม.คหอการค้าไทย ไง บรรยากาศผู้คนที่มาสอบ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มาสอบครับ จำนวนผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกันอย่างชัดเจน ผู้สอบหญิงที่มาสอบ ก็มักจะดู สวย ไฮโซ มีสกุลรุนชาติ และที่สำคัญดูเป็นปัญญาชนกันทั้งนั้นเลย และทำให้ได้ความรู้สึกว่าในการสอบทูตนี่ ต่างจากการสอบสนามอื่นๆ ที่ทุกคนมีความมุ่งมั่นกันทั้งนั้นเลย หรือมองอีกมุมนึง ก็น่าจะได้ความรู้สึกว่าหลายคนเีพียงต้องการมาหาประสบการณ์ หลายคนคงคิดในใจว่า ลองดูก็แล้วกัน ไม่ได้ไม่เป็นไร

       ส่วนในเรื่องการสอบนั้น ขอเริ่มสาธยายเลยนะครับ ในวันแรกนั้น เป็นส่วนของการสอบในภาค ก ที่ข้อสอบเป็นไปในลักษณะข้อสอบปรนัย โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ เช้าเเละบ่าย โดยช่วงเช้าสอบเกี่ยวกับ ความรู้ทางด้านการเมืองทั่วไป เเละประเด็นทางเหตุการณ์ระหว่างประเทศ ข้อสอบก็มีเพียง 4 ช้อย เท่านั้นเอง

       แต่ถามว่ายากมั้ย คงตอบได้เลยว่า เป็นคำถามที่คุณรู้หรือไม่ก็เท่านั้นเอง เช่น ถามว่า ใครไม่ได้เป็นตัวแทนในการค้า จากลิสต์ที่ข้อสอบให้มา สำหรับตัวผม ตอบไม่ได้หรอก เพราะเวลาจำผมก็จะเลือกจำแค่ใครบางคน เช่น ประธาน หรือ รองฯ เพียงเท่านั้น ถ้าเกินนี้จำไม่ได้ เเละข้อสอบมักจะถามในเืรื่องว่าประเทศใดจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมต่าง ๆในครั้งต่อไป เเละการประชุมต่างๆ ว่าด้วยเรื่องนั้นๆ จะเกิดขึ้น ณ ที่ใด รวมไปถึงองค์กรนั้นๆ มีประเทศใดบ้างเเละมีภารกิจด้านใดบ้าง  รวมไปถึงมีที่ตั้งอยู่ในประเทศใด เป็นต้น

        แต่ที่สำคัญ เป็นความรู้ใหม่ๆ ทั้งนั้น จำเป็นต้องติดตามข่าวอยู่โดยตลอด ถ้าไม่ดูข่าวเเละหาความรู้เพิ่มเติม ย้ำว่าทำไม่ได้เเน่เลย

        ส่วนในภาคบ่ายก็เป็นข้อสอบช้อย เหมือนเดิม แต่เป็นข้อสอบที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง

        แนวคำถามส่วนใหญ่ ก็เป็นการสรุปความจากเรื่องที่ให้มา เป็นไปในลักษณะ comprehensive ดังนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าอ่านแล้วเข้าใจ จะยากก็น่าจะเป็นในส่วนของ vocabulary ที่ให้หาคำที่เป็นเฉพาะของเรื่องนั้นๆ ยากจริงๆ ที่จะตีความจากบริบทที่ให้มา เช่น ถามว่า Perestroika คือ อะไร บอกตรงๆ เลยว่า ถ้าคุณไม่รู้จัก คุณก็น่าจะหาความหมายไม่ได้ เพราะนี้มันเป็น นโยบายของ Soviet โดย Michael Globachev ที่เป็นเรื่องการ reconstruction ในทางเศรษฐกิจ เป็นการเปิดตลาดทางการค้า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสอบในวันแรกเท่านั้น

       พอมาวันที่ 2 นั้น เป็นการสอบในภาค ข ที่จำเป็นต้องมีความรู้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่งั้นคงถอดใจไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ข้อสอบในช่วงเช้านั้น เป็นข้อสอบการเขียน (อัตนัย) เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ซึ่งผมบอกตามตรงเลยว่า ผมทำไม่ทันด้วยเวลากับข้อสอบที่ผมว่า ไม่เหมาะสมกันซักเท่าไรนัก ข้อสอบก็แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ

       1. ให้เขียนจดหมายเชิญชวนผู้บริหารของ Volkswagen ในเยอรมัน มาลงทุนในประเทศไทย ในส่วนนี้ ผมว่ายากตรงที่ การใช้ภาษาในทางจดหมายแบบทูต ตั้งหากละ เพราะหลายคนน่าที่จะฝึก writing มาอย่างดีเเล้ว การใช้ภาษาผมว่ายากนะ เพราะในเเต่สายงานน่าที่จะมีภาษาที่เเตกต่างกันไป ดังนันเเล้ว ผมว่า part นี้ยากนะ  

      ในส่วนที่ 2 ก็ให้สรุปความจากการกล่าวปฐากถาของ นายกฯ อภิสิทธิ์ ในการประชุม ASEAN SUMMIT ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อความยาวมากแต่ต้องทำความเข้าใจให้หมดแล้วนำมาเขียนย่อด้วยภาษาของตัวเราเอง การเขียนย่อความนี่เอง หากอ่านเข้าใจ ก็คงไม่ยาก

     ส่วนสุดท้าย ก็เป็นการแปลไทย-อังกฤษ และอังกฤษ- ไทย ซึ่งเนื้อเรื่องก็หนีไม่พ้นเรื่องการประชุมอีกนาแหละ อันนี้ไม่ยากควรรีบทำละ

     ปิดท้ายกันด้วยภาคบ่าย ก็เป็นการสอบเกี่ยวกับความรู้ด้านการต่างประเทศ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ข้อ ให้ทำแค่ 3 ข้อ จากเรื่อง

         1. ความรู้ด้านการต่างประเทศ

         2.องค์กรระหว่างประเทศ

         3.เศรษฐกิจระหว่างประเทศ

         4.กฎหมายระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ดี ข้อสอบก็ถามดังนี้

         ในข้อแรก ให้เรากำหนดนโยบายต่างประเทศมาให้ ซึ่งก็น่าจะเป็นอิสระทางความคิดที่ต่างคนต่างก็มีสิทธ์ที่จะวาดฝันนโยบายต่างประเทศของประเทศไทย

         ข้อ 2 ให้บอกถึงภาระหน้าที่ ขอบเขตการทำงานของสมัชชาสหประชาชาติ และถามว่าประเทศไทย เคยเข้าร่วมหรือไม่ และได้ประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งไทยเคยทำหน้าที่นี้ในปี 2525-2529 ถ้าใครรู้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

         ส่วนข้อ 3 ก็ให้เราทำกรอบการประชุมจากหัวข้อที่ เค้ากำหนดมาให้ คิดว่าไม่ยากอะไร ถ้าเข้าใจในประเด็นต่างๆ ได้ ก็น่าที่จะทำในส่วนนี้ได้

         ปิดท้ายกันที่ กฎหมายระหว่างประเทศที่ ถามว่า การที่ประธานาธิบดีป่าว ประกาศว่าจะทำเช่นโน้น เช่นนี้ ถือว่าเป็นการยอมรับในสนธิสัญญานั้น หรือป่าว ซึ่งผมว่าไม่ยากเท่าไหร่ สำหรับคำถามข้อนี้


นี่เป็นแนวข้อสอบจาก 2 วันที่มีการสอบ ซึ่งผมหวังว่าใครๆ หลายคน น่าจะได้ประโยชน์จากการบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนี้ จากการสอบอาชีพนักการทูต ทั้งนี้ คงกล่าวได้ว่าอาชีพนักการทูตเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆคน ที่อยากจะมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศ

         อีกทั้ง ทุกคนมีความฝันและอุดมการณ์ที่เหมือนกันเื่พื่อมาทำหน้าที่ของตนในการสอบเพื่อทำตามความฝัน ถึงแม้ทุกๆ คนจะไม่ได้เป็น ทูตกันทั้งหมด แต่ผมเชื่อว่า นี่น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจชั้นดี ให้กับข้าราชการทุกท่าน ตลอดจนนักการทูตที่กำลังปฏิบัติหน้าที่กันตามประเทศต่างๆ ว่ามึใครหลายๆคน อยากจะทำหน้าที่นี้มาก ดูจากกันความพยายามและความตั้งใจของทุกคน

        ดังนั้นแล้ว จึงอยากพูดในฐานะบุคคลหนึ่งที่อยากจะทำหน้าที่นี้ว่า ขอให้ข้้าราชการทุกคนตั้งใจทำงาน ด้วยใจจริงในการรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติ อย่าหวังเพียงเเค่อภิสิทธิ์หรือผลประโยชน์ใดๆ จากอาชีพนี้ เพราะยังมีอีกหลายคนต้องการทำหน้าที่อย่างที่คุณกำลังทำอยู่ เเล้วคนเหล่านี้ก็หวังอย่างยิ่งที่จะทำหน้าีที่เพื่อรักษาผลประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ไม่เเพ้พวกท่านเเต่อย่างใด

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 
การเตรียมตัวก่อนสอบ

1. ในส่วนของข้อเขียน ขอแนะนำให้อ่านหนังสือพิมพ์ให้เยอะ ๆ โดยเฉพาะ Nation และ Bangkok Post ดิฉันรับหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับนี้ ในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนสอบค่ะ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่ได้มีการเขียนเตรียมล่วงหน้ามาก เพื่อให้ up-to-date ยกเว้นอะไรที่เป็น major event และส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ มาก ก็คงมีการกล่าวถึงบ้าง

2. อ่านแม็กกาซีนข่าวภาษาอังกฤษ เช่น Newsweek Economist เพื่อศึกษาแนวและวิธีการเขียน essay หรือบทความดี ๆ ให้เราชิน และหารูปแบบการวิเคราะห์ที่ชอบ เพื่อพัฒนาแนวทางการเขียนคำตอบให้อ่านเข้าใจอ่าน และมองเห็น development ของ theme อย่างชัดเจน

3. ฟังข่าวภาษาไทย ในวันสอบดิฉันยังฟังข่าวในวิทยุอยู่เลย และมันก็ช่วยได้มากทีเดียว เพราะมันทำให้เราเข้าใจความคิดของคนไทยต่อข่าวต่าง ๆ ได้ (จากการฟังความเห็น) ประมวลกับข่าวที่เราอ่านฉบับภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ความรู้แน่นปึ๊กค่ะ

4. ลองทำแบบฝึกหัดข้อสอบเก่า ๆ และจับเวลาดูว่าในระยะเวลาที่จำกัด เราสามารถประมวลความคิดของตัวเองออกมาได้มากแค่ไหน สมัยที่ดิฉันเตรียมตัวก่อนสอบ ดิฉันจะจับเวลาการเขียนคำตอบแต่ละข้อประมาณ 1 ชั่วโมง และลองตั้งนาฬิกาดู อันนี้ เป็นประโยชน์มากนะคะ เพราะบางที ในเวลา 1 ชั่วโมง ถ้าเราประมวลความคิดเราเร็ว ๆ ไม่ได้ เริ่มเขียนช้า ก็จะทำข้อสอบไม่ทันค่ะ การฝึกฝน ทำให้เราสามารถคิดอะไรได้มากขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด

5. เขียนตัวหนังสือให้อ่านง่าย อย่าเขียนหวัดหรือแก้จนเปรอะไปหมด ใครเขาอยากจะอ่านล่ะคะ ที่สำคัญ หน่วยราชการชอบอะไรที่เขียนเป็นข้อ ๆ มีย่อหน้า มีวรรคมีตอนที่ชัดเจน ไม่ใช่เขียนเป็นพรืด ย่อหน้าเดียวมีประมาณ 30 บรรทัด ถ้ามันเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบชัดเจน และแสดงความเห็น ก็เขียนไปชัดเจนเลยว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย และทำไม โดยแบ่งเป็นข้อ ๆ ให้อ่านง่าย

6. มีคนถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องไปเรียนพิเศษ ติวเตอร์การสอบเข้ากระทรวงฯ ดิฉันไม่ได้เรียนค่ะ เพราะราคาค่อนข้างสูง แต่อัตราคนที่สอบติดจากการไปเรียนต่อก็มีมากนะคะ การเรียน ถ้าได้เรียนก็ไม่เสียหลายอยู่แล้ว

7. สำหรับการสอบสัมภาษณ์ ดิฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดอันดับแรก คือ การเตรียมตัว ทั้งเรื่องการแต่งตัว (ไม่ได้หมายความว่าต้องหรู แต่ให้เหมาะกับกาละเทศะ) ความรู้ ก็ที่เราเตรียมมาสำหรับการสอบข้อเขียนก็เพียงพอแล้ว แต่ก่อนสอบ อย่าลืมอ่านข่าวเพิ่มเติม เพื่อขัดเกลาให้เราทันเหตุการณ์ ไม่เชย และมีเหตุผลที่จะไป argue กับคนอื่น ๆ ว่าทำไมเราถึงคิดอย่างนั้น คิดอย่างนี้ เหตุผลสนับสนุน จะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้คำตอบของคุณโดดเด่น มีความน่าสนใจกว่าคนอื่น
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้