แนวข้อสอบ พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541
1. พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 ยกเลิกกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524
ข. พระราชบัญญัติพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
ค. พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2528
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
(1) พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524
(2) พระราชบัญญัติพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
(3) พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2538
2. คำว่า “กองทุน” ตามมาตรา 4 แพ่ง พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 หมายความว่า
ก. กองทุนเพื่อพรรคการเมือง
ข. กองทุนสำหรับพัฒนาพรรคการเมือง
ค. กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
ง. กองทุนพรรคการเมือง
ตอบ ค. กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
3. บุคคลใดรักษาการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541
ก. รัฐมนตรีมหาดไทย
ข. ประธานการเลือกตั้ง
ค. เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดถูก
มาตรา 5 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
4. บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ และไม่มีลักษณะที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญนี้ จำนวนกี่คน สามารถรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองได้
ก. ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ข. ตั้งแต่ 13 คนขึ้นไป
ค. ตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป ง. ตั้งแต่ 17 คนขึ้นไป
ตอบ ค. ตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป
มาตรา 8 ผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ และไม่มีลักษณะที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมีจำนวนตั้งแต่สิบห้าค้นขึ้นไป สามารถรวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองได้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเจตนารมณ์ทางการเมืองของประชาชนและเพื่อดำเนินกิจการในทางการเมืองให้เป็นไปตามเจตนารมณ์นั้น ตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมือง
ก. ต้องไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในเรื่องเชื้อชาติระหว่างชนในชาติ
ข. ไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ
ค. ไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบ หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 10 พรรคการเมืองต้องมีนโยบายและข้อบังคับพรรคการเมือง ซึ่งต้องไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในเรื่องเชื้อชาติหรือศาสนาระหว่างชนในชาติ ไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ และไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ
6. คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ากี่ปี
ก. 20 ปีบริบูรณ์ ข. 25 ปีบริบูรณ์
ค. 30 ปีบริบูรณ์ ง. 35 ปีบริบูรณ์
ตอบ ก. 20 ปีบริบูรณ์
มาตรา 12 คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ประกอบด้วย หัวหน้าพรรคการเมือง รองหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง รองเลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิกพรรคการเมือง โฆษกพรรคการเมือง และกรรมการบริหารอื่น ซึ่งเลือกตั้งจากสมาชิกซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
7. บุคคลใดต่อไปนี้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง
ก. รองเลขาธิการพรรคการเมือง ข. เหรัญญิกพรรคการเมือง
ค. โฆษกพรรคการเมือง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 12 คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ประกอบด้วย หัวหน้าพรรคการเมือง รองหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง รองเลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิกพรรคการเมือง โฆษกพรรคการเมือง และกรรมการบริหารอื่น ซึ่งเลือกตั้งจากสมาชิกซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
8. รายการใดต่อไปนี้ไม่จำต้องมีในคำขอจัดตั้งพรรคการเมือง
ก. ภาพเครื่องหมายพรรคการเมือง
ข. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรคการเมือง
ค. ชื่อ อาชีพ ที่อยู่ และลายมือชื่อของผู้จัดตั้งพรรคการเมือง
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดถูก
มาตรา 13 วรรค 2
มาตรา 13 ให้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองยื่นคำขอ จัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพร้อมกับนโยบายพรรคการเมือง ข้อบังคับพรรคการเมือง บัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของพรรคการเมือง และสำเนารายงานการประชุมของผู้จัดตั้งพรรคการเมือง
คำขอจัดตั้งพรรคการเมืองให้เป็นไปตามแบบที่นายทะเบียนกำหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้
(1) ชื่อพรรคการเมือง
(2) ภาพเครื่องหมายพรรคการเมือง
(3) ที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรคการเมือง
(4) ชื่อ อาชีพ ที่อยู่ และลายมือชื่อของผู้จัดตั้งพรรคการเมือง
(5) ชื่อ อาชีพ ที่อยู่ และลายมือชื่อของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง
9. ที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองต้องประกอบด้วยบุคคลใดบ้างและบุคคลใดต่อไปนี้เป็นบุคคลที่ต้องอยู่ในที่ประชุมใหญ่ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. รองเลขาธิการพรรคการเมือง ข. โฆษกพรรคการเมือง
ค. สมาชิกพรรคการเมือง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 26 ที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองต้องประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ผู้แทนของสาขาพรรคการเมือง และสมาชิก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับพรรคการเมือง
ในระหว่างที่พรรคการเมืองใดดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง ตามมาตรา 29 ให้ที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองนั้นประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง และสมาชิก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับพรรคการเมือง
10. ในกรณีที่มติหรือข้อบังคับในเรื่องใดของพรรคการเมืองที่สมาชิกพรรคสังกัดอยู่ขัดต่อสถานการณ์ปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ หรือขัดแย้งกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้เสนอต่อองค์กรใดวินิจฉัย
ก. ศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข. ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง
ค. ศาลรัฐธรรมนูญ ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ศาลรัฐธรรมนูญ
มาตา 28 ในกรณีที่สมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิก ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมการบริหารพรรคการเมือง จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าห้าสิบคนเห็นว่ามติหรือข้อบังคับในเรื่องใดของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกอยู่นั้นจะขัดต่อสถานะและการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ หรือขัดหรือแย้งกับหลักการพื้นฐานแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีสิทธิร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
11. ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่นายทะเบียน รับจดแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องดำเนินการให้มีสมาชิกจำนวนกี่คน
ก. ตั้งแต่ 3,000 คนขึ้นไป ข. ตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป
ค. ตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป ง. ตั้งแต่ 6,000 คนขึ้นไป
ตอบ ค. ตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป
มาตรา 29 ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดแจ้งการจัดตั้ง พรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องดำเนินการให้มีสมาชิกตั้งแต่ห้าพันคนขึ้นไป ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยสมาชิกซึ่งมีที่อยู่ในแต่ละภาคตามบัญชี รายชื่อภาคและจังหวัดที่นายทะเบียนประกาศกำหนด และมีสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละหนึ่งสาขา
12. ในกรณีที่พรรคการเมืองได้จัดตั้งพรรคการเมืองสาขาขึ้น ให้หัวหน้าพรรคการเมืองแจ้งต่อ นายทะเบียนภายในกำหนดกี่วัน นับแต่วันจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง
ก. 15 วัน ข. 20 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข. 20 วัน
มาตรา 30 ในกรณีที่พรรคการเมืองใดจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองขึ้น ให้หัวหน้าพรรคการเมืองมีหนังสือแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองต่อนายทะเบียน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองนั้น
13. จากคำถามข้อข้างต้น เมื่อนายทะเบียนได้รับแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองแล้ว ให้ออกหนังสือรับรองการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองภายในกำหนดกี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ก. 15 วัน ข. 20 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ก. 15 วัน
มาตรา 30 วรรคสาม
มาตรา 30 ในกรณีที่พรรคการเมืองใดจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองขึ้น ให้หัวหน้าพรรคการเมืองมีหนังสือแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองต่อนายทะเบียน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองนั้น
หนังสือแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองให้เป็นไปตามแบบที่นายทะเบียนกำหนดและอย่างน้อยจะต้องมีรายการแสดงที่ตั้งสาขาพรรคการเมือง รายชื่อ อาชีพ และที่อยู่ของกรรมการสาขาพรรคการเมืองนั้น
เมื่อนายทะเบียนได้รับแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองแล้ว ให้ออกหนังสือรับรองการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
14. บุคคลใดต่อไปนี้คือคณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. เลขานุการสาขาพรรคการเมือง ข. รองเลขานุการสาขาพรรคการเมือง
ค. โฆษกสาขาพรรคการเมือง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 31 คณะกรรมการสาขาพรรคการเมืองประกอบด้วย ประธานสาขาพรรคการเมือง รองประธานสาขาพรรคการเมือง เลขานุการสาขาพรรคการเมือง รองเลขานุการสาขาพรรคการเมือง เหรัญญิกสาขาพรรคการเมือง โฆษกสาขาพรรคการเมือง และกรรมการอื่นของสาขาพรรคการเมือง
15. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายพรรคการเมือง ข้อบังคับพรรคการเมืองให้หัวหน้า พรรคการเมือง แจ้งการเปลี่ยนแปลงเป็นหนังสือต่อนายทะเบียนภายในกำหนดกี่วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข. 30 วัน
มาตรา 33 เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายพรรคการเมือง ข้อบังคับพรรคการเมืองหรือรายการตาม มาตรา 13 วรรคสอง (5) ที่จดแจ้งไว้กับนายทะเบียน หรือรายละเอียดที่แจ้งไว้ในแบบตามมาตรา 30 ให้หัวหน้าพรรคการเมืองแจ้งการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นหนังสือต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้พิจารณาแก้ไขรายละเอียดดังกล่าว
16. การแจ้งนายทะเบียนถึงเรื่องการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนสมาชิก ในรอบปีปฏิทินให้หัวหน้าพรรคการเมืองแจ้งจำนวนสมาชิกในเดือนใดของทุกปี
ก. ธันวาคม ข. มกราคม
ค. มีนาคม ง. กันยายน
ก. 15 วัน ข. 20 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข. มกราคม
มาตรา 34 วรรค 2
มาตรา 34 หัวหน้าพรรคการเมืองต้องจัดทำทะเบียนสมาชิกให้ตรงตามความเป็นจริง เก็บรักษาไว้ ณ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรคการเมือง และพร้อมที่จะให้นายทะเบียนหรือผู้ซึ่งนายทะเบียนมอบหมายตรวจสอบได้
หัวหน้าพรรคการเมืองแจ้งจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมาพร้อมด้วยรายชื่อ อาชีพ และที่อยู่ของสมาชิกดังกล่าวตามวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด ให้นายทะเบียนทราบภายในเดือนมกราคมของทุกปี
17. ให้หัวหน้าพรรคการเมืองจัดทำรายงานการดำเนินการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมาตามความเป็นจริง และให้หัวหน้าพรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายในเดือนใดของทุกปี
ก. ธันวาคม ข. มกราคม
ค. มีนาคม ง. กันยายน
ตอบ ค. มีนาคม
มาตรา 35 ให้หัวหน้าพรรคการเมืองจัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมาให้ถูกต้องตามความเป็นจริงตามความเป็นจริงตามวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายในเดือนมีนาคมของทุกปีเพื่อประกาศให้สาธารณชนทราบ เว้นแต่พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นยังไม่ถึงเก้าสิบวัน นับจนถึงวันสิ้นปีปฏิทิน
18. ข้อใดต่อไปนี้เป็นบัญชีของพรรคการเมือง และบัญชีของสาขาพรรคการเมือง
ก. บัญชีรายวันแสดงรายได้หรือรายรับ และแสดงค่าใช้จ่ายหรือรายจ่าย
ข. บัญชีแสดงรายรับจากการบริจาค
ค. บัญชีแยกประเภท
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 38 บัญชีของพรรคการเมืองและบัญชีของสาขาพรรคการเมือง ประกอบด้วย
(1) บัญชีรายวันแสดงรายได้หรือรายรับ และแสดงค่าใช้จ่ายหรือรายจ่าย
(2) บัญชีแสดงรายรับจากการบริจาคตามมาตรา 48
(3) บัญชีแยกประเภท
(4) บัญชีแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน การลงรายการบัญชีต้องมีเอกสารประกอบการลงบัญชีที่ถูกต้องสมบูรณ์โดยครบถ้วน
บัญชีตาม (1) และ (2) ต้องลงรายการให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวัน นับแต่รายการนั้นเกิดขึ้น บัญชีตาม (3) และ (4) ต้องลงรายการให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่รายการนั้นเกิดขึ้น
19. งบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบรับรองแล้ว ต้องทำเสนอที่ประชุมใหญ่ของ พรรคการเมืองภายในเดือนใดของทุกปี
ก. มีนาคม ข. เมษายน
ค. พฤษภาคม ง. มิถุนายน
ตอบ ข. เมษายน
มาตรา 40 งบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองแล้ว ต้องเสนอที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติภายในเดือนเมษายนของทุกปี โดยแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า และปิดประกาศไว้ ณ ที่ตั้งสำนักงานของพรรคการเมือง และสาขาพรรคการเมือง ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
20. จากคำถามข้อข้างต้น งบการเงินที่มีการรับรองแล้ว ให้แจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าและปิดประกาศได้ ณ ที่ตั้งสำนักงานของพรรคการเมืองและสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ก. 15 วัน
มาตรา 40 งบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองแล้ว ต้องเสนอที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติภายในเดือนเมษายนของทุกปี โดยแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า และปิดประกาศไว้ ณ ที่ตั้งสำนักงานของพรรคการเมือง และสาขาพรรคการเมือง ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
งบการเงินซึ่งที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติแล้วตามวรรคหนึ่ง หัวหน้า พรรคการเมืองต้องรับรองความถูกต้องร่วมกับเหรัญญิกพรรคการเมือง และให้หัวหน้า พรรคการเมืองส่งงบการเงินต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ ที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติ พร้อมทั้งสำเนาบัญชีตามมาตรา 38
เมื่อนายทะเบียนได้รับงบการเงินและสำเนาบัญชีตามวรรคสองแล้ว ให้นายทะเบียนเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อตรวจสอบและประกาศให้สาธารณชนทราบ
21. จากคำถามข้อข้างต้น เมื่อหัวหน้าพรรคการเมืองรับรองความถูกต้องร่วมกับเหรัญญิกของ พรรคการเมืองแล้ว ให้หัวหน้าพรรคการเมืองส่งงบการเงินต่อนายทะเบียนภายในกำหนดกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข. 30 วัน
มาตรา 40 วรรคสอง
มาตรา 40 งบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองแล้ว ต้องเสนอที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติภายในเดือนเมษายนของทุกปี โดยแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า และปิดประกาศไว้ ณ ที่ตั้งสำนักงานของพรรคการเมือง และสาขาพรรคการเมือง ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
งบการเงินซึ่งที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติแล้วตามวรรคหนึ่ง หัวหน้า พรรคการเมืองต้องรับรองความถูกต้องร่วมกับเหรัญญิกพรรคการเมือง และให้หัวหน้า พรรคการเมืองส่งงบการเงินต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ ที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองอนุมัติ พร้อมทั้งสำเนาบัญชีตามมาตรา 38
เมื่อนายทะเบียนได้รับงบการเงินและสำเนาบัญชีตามวรรคสองแล้ว ให้นายทะเบียนเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อตรวจสอบและประกาศให้สาธารณชนทราบ
22. ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกผู้ใดรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเพื่อดำเนินกิจการของพรรคการเมืองหรือดำเนินกิจการในทางการเมืองจากบุคคลหรือองค์กรใด
ก. บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย
ข. นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการหรือจดทะเบียนสาขาอยู่ในหรือนอกราชอาณาจักร
ค. นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร ซึ่งมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย มีทุนหรือผู้ถือหุ้นเกินร้อยละยี่สิบห้า
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 53 ห้ามมิให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกผู้ใดรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ อื่นใดเพื่อดำเนินกิจการของพรรคการเมืองหรือดำเนินกิจการในทางการเมืองจาก
(1) บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย
(2) นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการ หรือจดทะเบียนสาขาอยู่ในหรือนอกราชอาณาจักร
(3) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร ซึ่งมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้นเกินร้อยละยี่สิบห้า
(4) องค์การหรือนิติบุคคลที่ได้รับทุนหรือได้รับเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ของบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือมีผู้จัดการหรือกรรมการเป็นบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย
(5) บุคคล องค์การ หรือนิติบุคคลที่ได้รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเพื่อดำเนินกิจการของพรรคการเมืองหรือเพื่อดำเนินกิจการในทางการเมือง จากบุคคล องค์การ หรือนิติบุคคลตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
(6) บุคคล องค์การ หรือนิติบุคคลตามที่กำหนดในประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
23. บุคคลใดต่อไปนี้คือคณะกรรมการที่คณะกรรมการเลือกตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่แทนในการจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมือง
ก. ผู้แทนกระทรวงการคลัง
ข. ผู้แทนสำนักงบประมาณ
ค. ผู้แทนพรรคการเมือง ซึ่งสมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนสามคน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 57 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมือง และควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินทุนหมุนเวียน
ในการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองและควบคุมดูแลกองทุนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่แทน โดยคณะกรรมการดังกล่าวให้ประกอบด้วย นายทะเบียน เป็นประธานกรรมการ กรรมการการเลือกตั้งซึ่งคณะกรรมการ การเลือกตั้ง มอบหมายหนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงการคลังหนึ่งคน ผู้แทนสำนักงบประมาณ หนึ่งคน ผู้แทนของพรรคการเมืองซึ่งสมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนสามคน และผู้แทนของพรรคการเมืองซึ่งไม่มี สมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการและให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นกรรมการและเลขานุการ
วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองและการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ การเลือกตั้งกำหนด
24. จากข้อข้างต้น บุคคลใดเป็นประธานคณะกรรมการที่คณะกรรมการเลือกตั้งตั้งขึ้น
ก. นายทะเบียน ข. ผู้แทนกระทรวงการคลัง
ค. ผู้แทนสำนักงบประมาณ ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. นายทะเบียน
มาตรา 57 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมือง และควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินทุนหมุนเวียน
ในการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองและควบคุมดูแลกองทุนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่แทน โดยคณะกรรมการดังกล่าวให้ประกอบด้วย นายทะเบียน เป็นประธานกรรมการ กรรมการการเลือกตั้งซึ่งคณะกรรมการ การเลือกตั้ง มอบหมายหนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงการคลังหนึ่งคน ผู้แทนสำนักงบประมาณ หนึ่งคน ผู้แทนของพรรคการเมืองซึ่งสมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนสามคน และผู้แทนของพรรคการเมืองซึ่งไม่มี สมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการและให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นกรรมการและเลขานุการ
วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองและการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ การเลือกตั้งกำหนด
25. เงินที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองเรียกว่าเงินใด
ก. เงินอุดหนุน ข. เงินช่วยเหลือ
ค. เงินทุนเพื่อการเมือง ง. เงินสนับสนุน
ตอบ ง. เงินสนับสนุน
มาตรา 57 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมือง และควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินทุนหมุนเวียน
ในการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองและควบคุมดูแลกองทุนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่แทน โดยคณะกรรมการดังกล่าวให้ประกอบด้วย นายทะเบียน เป็นประธานกรรมการ กรรมการการเลือกตั้งซึ่งคณะกรรมการ การเลือกตั้ง มอบหมายหนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงการคลังหนึ่งคน ผู้แทนสำนักงบประมาณ หนึ่งคน ผู้แทนของพรรคการเมืองซึ่งสมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนสามคน และผู้แทนของพรรคการเมืองซึ่งไม่มี สมาชิกในสังกัดเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรซึ่งเลือกกันเองจำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการและให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นกรรมการและเลขานุการ
วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองและการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ การเลือกตั้งกำหนด
26. ให้พรรคการเมืองใช้จ่ายเงินสนับสนุนจำนวนเท่าใดของเงินสนับสนุนที่พรรคการเมืองเองได้รับเพื่อบริหารพรรคการเมือง
ก. ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ ข. ไม่น้อยกว่าสองในสาม
ค. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
มาตรา 59 ให้พรรคการเมืองใช้จ่ายเงินสนับสนุนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของเงินสนับสนุนที่พรรคการเมืองได้รับเพื่อการบริหารพรรคการเมือง และสาขาพรรคการเมือง การหาสมาชิกเพิ่ม การใช้จ่ายในการเลือกตั้งและการให้ความรู้ทางการเมืองแก่สมาชิกและประชาชนทั่วไป
27. ผู้ใดโดยเจตนาสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปดำเนินการเช่นเดียวกับพรรคการเมืองหรือเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษ
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. จำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 75 ผู้ใดโดยเจตนาสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปดำเนินการ เช่นเดียวกับพรรคการเมืองหรือเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมืองต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
28. นิติบุคคลใดบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเป็นการฝ่าฝืนมีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่น้อยกว่าสามเท่าของจำนวนเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
ข. ปรับไม่น้อยกว่า 4 เท่าของจำนวนเงิน
ค. ปรับไม่น้อยกว่า 5 เท่าของจำนวนเงิน
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. ปรับไม่น้อยกว่าสามเท่าของจำนวนเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
มาตรา 91 นิติบุคคลใดฝ่าฝืน มาตรา 55 ต้องระวางโทษปรับไม่น้อยกว่าสามเท่าของจำนวนเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่บริจาคให้แก่พรรคการเมือง
29. ในการปฏิบัติหน้าที่ของนายทะเบียน ให้นายทะเบียนเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้คำชี้แจงได้หรือส่งเอกสาร ถ้าบุคคลดังกล่าวฝ่าฝืนจะมีโทษอย่างไร
ก. ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ห้าพันบาท ข. ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน หกพันบาท
ค. ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน เจ็ดพันบาท ง. ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน แปดพันบาท
ตอบ ก. ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ห้าพันบาท
มาตรา 74 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียนซึ่งสั่งตาม มาตรา 7 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
30. การรวมพรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองใหม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากบุคคลใด
ก. หัวหน้าพรรคการเมืองของแต่ละพรรค ข. มติพรรคของแต่ละพรรค
ค. จากที่ประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคการเมือง ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. จากที่ประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคการเมือง
มาตรา 71 ในกรณีที่รวมพรรคการเมืองเป็นการรวมกันเพื่อจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองใหม่ให้พรรคการเมืองที่จะรวมกันขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคการเมืองเมื่อที่ประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคการเมืองเห็นชอบให้รวมกันแล้ว ให้หัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง จำนวนพรรคการเมืองละสิบคนประชุมร่วมกันเพื่อกระทำการเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ดังนี้
(1) กำหนดนโยบายพรรคการเมือง
(2) กำหนดข้อบังคับพรรคการเมือง
เมื่อได้ดำเนินการตามวรรคสองแล้ว ให้ดำเนินการจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกของทุกพรรคการเมืองที่จะรวมกันเพื่อประชุมจัดตั้งพรรคการเมืองตาม มาตรา 9 การเรียกประชุมจัดตั้งพรรคการเมืองต้องแจ้งให้สมาชิกของพรรคการเมืองที่จะรวมกันทราบก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวันและให้ดำเนินการต่อไปตามบทบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งพรรคการเมือง
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง กกต. ที่ใช้สอบทั่วประเทศ
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก
วิชาที่ใช้สอบ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง กกต.
ส่วนที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง กกต.
+ แนวข้อสอบ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาวุฒิสภา พ.ศ.2541
+ แนวข้อสอบ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541
+ แนวข้อสอบ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541
+ แนวข้อสอบ วิสัยทัศน์ พันธกิจ โครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
+ แนวข้อสอบ พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545
+ แนวข้อสอบ กฎหมายอาญา ชุดที่ 1
+ แนวข้อสอบ กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
+ แนวข้อสอบ ป.วิ อาญา
+ แนวข้อสอบ พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
+ แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาบ้านเมืองที่ดี 2546 ชุดที่ 1
+ แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาบ้านเมืองที่ดี 2546 ชุดที่ 2
+ แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาบ้านเมืองที่ดี 2546 ชุดที่ 3
+ แนวข้อสอบ สารบรรณ ชุดที่ 1 (100 ข้อ)
+ แนวข้อสอบ สารบรรณ ชุดที่ 2 (100ข้อ)
+ แนวข้อสอบ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ชุดที่ 1 (100 ข้อ)
+ แนวข้อสอบ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ชุดที่ 2 (100 ข้อ)
- ข้อมูลเกี่ยวกับสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง กกต. อัพเดตตลอด
- เหตุการณ์ปัจจุบัน ด้านสังคม ด้านการเมืองการปกครอง ด้านเศรษฐกิจ
- แนวข้อสอบตามตำแหน่งที่สอบ บัญชี การเงิน พัสดุ เจ้าหน้าที่ธุรการทั่วไป เจ้าหน้าที่ควบคุมการเลือตั้ง
สนใจสั่งซื้อมาที่ decho.by@hotmail.com
ส่งทางอีเมล์เป็นไฟเอกสาร
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย
บิ๊กซีขอนแก่ decho pragay ออมทรัพย์
โอนเงินแล้วโทรแจ้งที่ โทร 085-0127724
แนวข้อสอบเกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง