1. ปิโตรเลียมเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ก. เกิดจากซากสัตว์ทะเลเล็ก ๆ ที่ถูกทับถมอยู่ใต้ดิน 

ข.เกิดจากซากสัตว์กินพืชจมอยู่ใต้พื้นหินเป็นเวลานาน ๆ 

ค.เกิดจากซากพืชหรือต้นไม้ซึ่งจมอยู่ใต้ดินและหินลึก ๆ 

ง.เกิดจากพืชและสัตว์ทะเลที่ถูกทับถมอยู่ใต้ดินเป็นเวลานาน ๆ              

2. แก๊สโซฮอล์คืออะไร ?

ก.เป็นน้ำมันไบโอดีเซลชนิดหนึ่ง 

ข.น้ำมันที่ได้จากการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันปาล์ม 

ค.เป็นน้ำมันเบนซินชนิดหนึ่งมีคุณภาพเทียบเท่าเบนซิน 91

ง.น้ำมันที่ได้จากการผสมระหว่างน้ำมันเบนซินกับแอลกอฮอล์ 

3. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับแก๊สธรรมชาติ ?

ก.ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น 

ข.มีราคาถูกกว่าน้ำมัน 

ค.เป็นแก๊สชนิดเดียวกับแก๊สหุงต้ม 

ง.เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์กว่าน้ำมันเบนซิน 

4. แก๊สแอลพีจี คืออะไร ?

ก.เป็นแก๊สมีเทน 

ข.เป็นแก๊สที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหล็ก 

ค.เป็นแก๊สที่ได้จากการผสมระหว่างโพรเพนกับบิวเทน 

ง.เป็นแก๊สชนิดเดียวกับที่ได้จากการย่อยสลายของจุลินทรีย์ในบ่อเกรอะ 

5. ข้อใดเป็นตัวอย่างของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ?

ก.มีเทน  และบิวเทน 

ข.พลาสติก และเส้นใยไหม 

ค.ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต 

ง.คาร์โบไฮเดรต และ โปรตีน 

6. การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารประเภทไฮโดรคาร์บอนเกิดจากสาเหตุใด ?

ก.มีปริมาณเชื้อเพลิงมากเกินไป 

ข.มีปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอ 

ค.มีปริมาณของไอน้ำผสมในเชื้อเพลิง 

ง.เกิดจากมีสารปรอทปนเปื้อนในสารเชื้อเพลิง 

7. การกลั่นลำดับส่วนสารไฮโดรคาร์บอนใดออกมาก่อน เรียงตามลำดับ ?

ก.แก๊สหุงต้ม  เบนซิน  ดีเซล  น้ำมันก๊าด 

ข.น้ำมันดีเซล  น้ำมันก๊าด เบนซิน  แก๊สหุงต้ม 

ค.แก๊สหุงต้ม  เบนซิน  น้ำมันก๊าด  น้ำมันดีเซล 

ง.แก๊สหุงต้ม  น้ำมันก๊าด  น้ำมันดีเซล  น้ำมันเบนซิน 

 8. เหตุใดในกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติจึงต้องมีหน่วยกำจัดปรอทออกก่อน ?

ก.เพราะไอปรอทมีพิษ 

ข.เพราะปรอทเป็นของแข็งจะเกิดการอุดตันท่อ 

ค.เพื่อป้องกันการผุกร่อนของท่อจากการรวมตัวกับปรอท 

ง.ถูกทุกข้อ 

 9. ข้อใดเป็นแหล่งพลังงานสำรองในอนาคตของประเทศไทยที่ได้มาจากพืช ?

ก.แก๊สหุงต้ม 

ข.ไบโอดีเซล 

ค.น้ำมันดีเซล 

ง.แก๊สแอลพีจี 

10. ปิโตรเลียมประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง ?

ก.น้ำมันกับถ่านหิน 

ข.น้ำมันกับหินน้ำมัน 

ค.ถ่านหินกับแก๊สธรรมชาติ 

ง.น้ำมันกับแก๊สธรรมชาติ 

 11.ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของน้ำมันและแก๊สธรรมชาติคืออะไร ?

ก.คาร์บอนและไฮโดรเจน 

ข.คาร์บอน และออกซิเจน 

ค.ไฮโดรเจนและออกซิเจน 

ง.คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน 

 

12. วิธีการใดต่อไปนี้ใช้ตรวจสอบหาแหล่งปิโตรเลียมได้ ?

ก.การวัดค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลก 

ข.การตรวจวัดค่าความโน้มถ่วงของโลก 

ค.การสำรวจด้วยการวัดคลื่นไหวสะเทือน 

ง.ถูกทุกข้อ 

 13. ข้อใดเป็นการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมโดยอาศัยวิธีทางธรณีวิทยา ?

ก.การทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ 

ข.การวัดค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลก 

ค.การตรวจวัดค่าความโน้มถ่วงของโลก 

ง.การสำรวจด้วยการวัดคลื่นไหวสะเทือน 

14. ไฮโดรคาร์บอนชนิดใดต่อไปนี้มีมวลโมเลกุลสูงที่สุด ?

ก.น้ำมันเตา 

ข.น้ำมันดีเซล 

ค.น้ำมันเบนซิน 

ง.ยางมะตอย 

15. การเผาไหม้ของน้ำมันเบนซินในข้อใดที่ทำให้เครื่องยนต์เกิดการจุดระเบิดได้ง่ายที่สุด ?

ก.น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 90

ข.น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 91

ค.น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 95

ง.น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 100

16. สารเคมีชนิดใดที่ใช้สำหรับปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันเบนซินได้ ?

ก.เอทานอล 

ข.เมทานอล 

ค.เตตระเมทิลเลด 

ง.ถูกทุกข้อ 

17. การปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันเบนซินด้วยวิธีการในข้อใดจึงจะทำให้ได้น้ำมันที่ไร้สารตะกั่ว ?

ก.เตตระเอทิลเลด 

ข.เตตระเมทิลเลด 

ค.เมทิลเทอร์เชียรีบิวทิลอีเทอร์ 

ง.ข้อ ก และ ข 

18. ข้อดีของการใช้แก็สปิโตรเลียมเหลวคืออะไร ?

ก.ไม่มีมลพิษในอากาศ 

ข.มีค่าเลขออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซิน 

ค.ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ง.ถูกทุกข้อ           

19. ข้อใดเป็นผลที่ได้จากการแยกแก๊สธรรมชาติ ?

ก.บิทูเมน 

ข.แก๊สอีเทน 

ค.น้ำมันเตา 

ง.น้ำมันเบนซิน 

20. สารที่ได้จากการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ของแก๊สธรรมชาติคือสารใด ?

ก.น้ำและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 

ข.น้ำและแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ 

ค.น้ำ แก๊สออกซิจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 

ง.แก๊สออกซิจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 

 

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบวิศวกรปิโตรเลียมปฏิบัติการ ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ  และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก  

      ส่งทางอีเมล์เป็นไฟเอกสาร
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย  ในราคาเพียงชุดละ   399 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย
 บิ๊กซีขอนแก่ decho pragay  ออมทรัพย์
โอนเงินแล้วแจ้งที่  decho.by@hotmail.com
สนใจสั่งซื้อมาที่  โทร 085-0127724

 

 

 

(ความรู้ทั้วไป) ปิโตรเคมีภัณฑ์ (Petro-chemicasl) คืออะไร

-->

 ปิโตรเลียม (petroleum จากภาษากรีก petra – หิน และ elaion – น้ำมัน หรือภาษาละติน oleum – น้ำมัน ) รวมความแล้วหมายถึง น้ำมันที่ได้จากหิน หรือที่เราเรียกกันว่า น้ำมันดิบ บางครั้งเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "ทองคำสีดำ" หรือ "น้ำชาเท็กซัส" คือเป็นของเหลวที่ขุ่นข้นมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีเขียวเข้ม
ปิโตรเลียม เป็นสารไฮโดรคาร์บอน (CH) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีธาตุองค์ประกอบหลัก 2 ชนิด คือ คาร์บอน (C) และไฮโดรเจน (H) ซึ่งอาจมีธาตุอโลหะชนิดอื่นปนอยู่ด้วย เช่น กำมะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ฯลฯ ทั้งนี้ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้ง 3 สถานะ คือของแข็ง ของเหลว หรือ ก๊าซ โดยจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียม รวมถึงความร้อน และความดันของสภาพแวดล้อมในการเกิดและการกักเก็บปิโตรเลียม



ปิโตรเลียม แบ่งตามสถานะได้เป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ น้ำมันดิบ (Oil) และ ก๊าซธรรมชาติ ( Natural Gases)

1.  ปิโตรเลียม (petroleum จากภาษากรีก petra – หิน และ elaion – น้ำมัน หรือภาษาละติน oleum – น้ำมัน ) รวมความแล้วหมายถึง น้ำมันที่ได้จากหิน หรือที่เราเรียกกันว่า น้ำมันดิบ บางครั้งเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "ทองคำสีดำ" หรือ "น้ำชาเท็กซัส" คือเป็นของเหลวที่ขุ่นข้นมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีเขียวเข้ม
   ปิโตรเลียม เป็นสารไฮโดรคาร์บอน (CH) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีธาตุองค์ประกอบหลัก 2 ชนิด คือ คาร์บอน (C) และไฮโดรเจน (H) ซึ่งอาจมีธาตุอโลหะชนิดอื่นปนอยู่ด้วย เช่น กำมะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ฯลฯ ทั้งนี้ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้ง 3 สถานะ คือของแข็ง ของเหลว หรือ ก๊าซ โดยจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียม รวมถึงความร้อน และความดันของสภาพแวดล้อมในการเกิดและการกักเก็บปิโตรเลียม
   
   
   
   
   
   ปิโตรเลียม แบ่งตามสถานะได้เป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ น้ำมันดิบ (Oil) และ ก๊าซธรรมชาติ ( Natural Gases)
   
   1. น้ำมันดิบ จะประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นหลัก นอกจากนั้นจะเป็นสารจำพวกกำมะถัน ไนโตรเจน และสารประกอบออกไซด์อื่นปนอยู่
   2. ก๊าซธรรมชาติ เป็นปิโตรเลียมที่อยู่ในรูปของ ก๊าซ ณ อุณหภูมิ และความดันที่ผิวโลก ซึ่งประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนเป็นหลัก โดยอาจมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 95 ส่วนที่เหลือจะเป็นสารจำพวกไนโตรเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ บางครั้งอาจจะพบไฮโดรเจนซัลไฟด์ปนอยู่ด้วย โดยจะหมายรวมถึง ก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งเมื่ออยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ผิวโลกซึ่งมีอุณหภูมิและความดันสูงจะมีสภาพ เป็นก๊าซ และจะกลายสภาพเป็นของเหลวเมื่อขึ้นมาสู่พื้นผิว เนื่องจากประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนในกลุ่มเดียวกันกับก๊าซธรรมชาติ แต่มีจำนวนคาร์บอนอะตอมในโครงสร้างโมเลกุลสูงกว่าก๊าซธรรมชาติ จึงเรียกว่า ก๊าซธรรมชาติเหลว
      
      น้ำมันดิบ จะประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นหลัก นอกจากนั้นจะเป็นสารจำพวกกำมะถัน ไนโตรเจน และสารประกอบออกไซด์อื่นปนอยู่
2. ก๊าซธรรมชาติ เป็นปิโตรเลียมที่อยู่ในรูปของ ก๊าซ ณ อุณหภูมิ และความดันที่ผิวโลก ซึ่งประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนเป็นหลัก โดยอาจมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 95 ส่วนที่เหลือจะเป็นสารจำพวกไนโตรเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ บางครั้งอาจจะพบไฮโดรเจนซัลไฟด์ปนอยู่ด้วย โดยจะหมายรวมถึง ก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งเมื่ออยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ผิวโลกซึ่งมีอุณหภูมิและความดันสูงจะมีสภาพ เป็นก๊าซ และจะกลายสภาพเป็นของเหลวเมื่อขึ้นมาสู่พื้นผิว เนื่องจากประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนในกลุ่มเดียวกันกับก๊าซธรรมชาติ แต่มีจำนวนคาร์บอนอะตอมในโครงสร้างโมเลกุลสูงกว่าก๊าซธรรมชาติ จึงเรียกว่า ก๊าซธรรมชาติเหลว
   
   

ปัจจุบันนักธรณีวิทยามีความเชื่อว่า ปิโตรเลียมมีต้นกำเนิดมาจากการตายทับถมกันของซากพืชซากสัตว์ภายใต้พื้นโลก เป็นเวลาล้านๆ ปี จนกลายเป็นชั้นหิน และด้วยอุณหภูมิ และความดันที่สูง ซึ่งเป็นผลมาจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินและอุณหภูมิใต้พิภพ อีกทั้งยังต้องมีปริมาณของออกซิเจน (O) ต่ำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสลายตัวของอินทรียสารจากซากสิ่งมีชีวิตเหล่า นี้ จากนั้นสารอินทรีย์ซึ่งมีสารประกอบไฮโดรคาร์บอนเป็นส่วนมาก ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างช้าๆ จนในท้ายที่สุดจะแปรสภาพเป็นก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบสะสมและซึมผ่านในชั้น หินที่มีรูพรุน เช่น ชั้นหินทรายและชั้นหินปูน ซึ่งโดยปกติจะปริมาณการสะสมตัวประมาณ 5.25% ของปริมาตรหิน ทั้งนี้ไฮโดรคาร์บอนดังกล่าวสามารถเคลื่อนย้ายไปตามช่องว่างและรอยแตกในหิน ข้างเคียงได้



ลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาของชั้นหินที่เหมาะสมในการกักเก็บปิโตรเลียม คือ

โครงสร้างรูปโค้งประทุนคว่ำ (Anticline Trap) เกิดจากการคดโค้งของชั้นหิน ทำให้มีรูปร่างโค้งคล้ายกระทะคว่ำหรือหลังเต่าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะ เคลื่อนเข้าไปรวมตัวกันอยู่ในส่วนโค้งก้นกระทะด้านบน โดยมีชั้นหินเนื้อแน่นปิดทับอยู่

• โครงสร้างรูปประดับชั้น (Stratigraphic Trap) สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของชั้นหิน โดยที่ชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียมจะถูกปิดล้อมเป็นกะเปาะอยู่ระหว่างชั้นหิน เนื้อแน่น

• โครงสร้างรูปโดม (Salt Dome Trap) เกิดจากการดันตัวของโดมเกลือ ผ่านชั้นหินกักเก็บน้ำมัน และจะเกิดการสะสมของปิโตรเลียมอยู่ด้านข้างของชั้นโดมเกลือนั้น

• โครงสร้างรูปรอยเลื่อน (Fault Trap) เกิดการเลื่อนตัวชั้นหิน ทำให้เกิดรอยแตก (Fault) ขึ้น และทำให้ชั้นหินที่มีเนื้อแน่นเลื่อนมาปิดทับชั้นหินที่มีรูพรุนที่มี ปิโตรเลียมอยู่ ปิโตรเลียมจึงสามารถกักเก็บอยู่ในชั้นหินนั้นได้

รวบรวม "คำถามจริง" ที่โดนถามในการสัมภาษณ์ ข้อเขียน บ.ในวงการฯ เพื่อนๆจำเอามาแบ่งปัน update 7/4/10

พื้นที่ตรงนี้ผมเปิดใหม่ เอาไว้เก็บประสบการณ์จริง คำถามจริงที่เพื่อนๆของเราโดนถาม แล้วนำเอามาแบ่งปันกัน ผิดถูกอย่างไร ผมไม่อาจจะเข้าไปรับรองได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลที่ทำให้เราเตรียมตัวได้ดีขึ้น ผมจะเอาลงไว้ที่นี่ต่อเนื่องเรื่อยๆนะครับตามแต่จะมีส่งมาให้ ลองแวะเข้ามาดูเรื่อยๆ อาจจะเจอคำถามเด็ดที่ชี้ชะตาชีวิตการทำงานคุณเข้าบ้างก็ได้ ชื่อจริงไม่ต้องบอกผมก็ได้ครับ นามแฝงก็พอ ชื่อบริษัทฯก็อาจจะไม่ต้องบอก แต่ขอชื่อตำแหน่งพอครับ ไม่ต้องห่วงว่าบางตำแหน่งเป็นชื่อเฉพาะของบ. ถ้าเป็นชื่อตำแหน่งเฉพาะ ผมก็จะเปลี่ยนเป็นชื่อทั่วๆไปเองล่ะครับ

มีอีกอย่างที่ผมอยากจะฝากทุกท่านไว้ก็คือ การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เป็นการทำดีทำกุศลอย่างหนึ่ง ที่เราแทบไม่ต้องเสียอะไรเลยแต่ผลประโยชน์ผลความดีมากมาย อย่าคิดว่า เอ๊ะ ถ้าเราจำเอามาบอกพี่นก พี่นกก็เอามาโพสต์ในนี้ คนที่มาอ่านทีหลังก็ได้เปรียบเรา ได้งานไปตัดหน้าเราซิ คุณจะคิดอย่างนั้นหรือเปล่า ...

แล้วมีวิธีคิดอย่างอื่นไหม แต่มีหลายๆคนที่เอามาแบ่งปัน เขาไม่ได้คิดอย่าง "ตัวอย่างสมมุติ" ข้างบน เขาจำเอามาแบ่งปัน เขามีความสุข ผมเชื่อว่าเขาคงไม่ได้หวังว่าจะมีผลดีผลบุญอะไรตอบแทนเขาหรอก ความสุขมีได้ 2 แบบ สุขจากการ "รับ" และ สุขจากการ "ให้" ... อ่านตัวอย่างที่เพื่อนๆจำเอามาแบ่งปันแล้วลองคิดดูว่า ถึงคราวที่คุณเป็นผู้ให้ได้บ้างหรือยัง ...



Halliburton ตำแหน่งประมาณ application/ maintenance engineer (โดยน้องเปิ้ล)

เริ่ม Present 9โมง เช้า สอบเสร็จถึงประมาณบ่ายครึ่ง เป็น manager อินโดจีน มาพรีเซ้นค่ะ (แกโหด น่าดู) เค้าว่าทำ Electronic ซ่อมพวก electronic part ที่อยู่ตรงหัวที่ขุดเจาะ มีพวกเซนเซอร์ เเล้วก้อ อะไรต่างๆๆ ที่เกี่ยวกับอิเล้กทรอนิกส์ อีกมากมายย

ก้อนั่งฟัง คุณอินเดียพูดๆๆๆ เล่าเรื่องบริษัท เเล้วก้อประสบการณ์ของเค้า เเล้วก้อเล่าว่าเราเข้าไปต้องไปทำอะไร เค้าบอกว่า ถ้าในส่วนที่เราดูเเลซ่อมอยู่ เกิดเอาไปใช้งานเเล้วเกิดผิดพลาดขึ้นมา
เค้า ไล่ออก เลยอ่า.... โหดมากก

เเล้วก้อ ด่านๆต่างๆที่ต้องฝ่าๆไปให้ได้คือ

1.ไปสอบ มี IQ English Technical (เข้าใจว่าเป็น 3 ข้อสอบ - พี่นก)

2.ถ้าผ่านด่านแรกเเล้ว ก้อไปสัมภาษณ์ กับคุณอินเดีย "บลา บลา ๆๆ"

3. ถ้าสัมภาษณ์คุณอินเดียผ่านเเล้วก้อ

ให้ไปสงขลาไปอยู่workshopประมาณ 1-2 อาทิตย์ไปทดลองงานทำงานรูทีนทั่วไป + ดูหน่วยก้าน + ให้โปรเจคมาทำ ถ้าดูๆๆเเล้ว ใช้ได้ๆๆ ทำได้จริงอย่างที่โม้ไว้ตอนสัมภาษณ์ กับความรู้ตอนสอบ โอเค รับเข้าทำงานค่ะ เเต่ ถ้าเค้าดูหน่วยก้านไม่โอ ไม่อยากอยู่สงขลา เข้ากับสังคม กะ ทีมคนอื่นๆๆไม่ได้ เค้าบอกว่า เด๋วเค้าจะมาบ้าย บาย เองเลยค่ะ

เงินเดือน กะ สวัสดิการ พี่ HR เค้าบอกว่า เค้าก้อเรตๆ เดียวกับบริษัท แนวๆๆนี้ เเล้วก้อมีของขวัญให้เลือกที่อยากได้ด้วยทุกปีอย่างละชิ้น เพราะเป็นบริษัท อเมริกัน มันเป็นธรรมเนียม ประมาณนี้ค่ะ

ข้อเขียน - อิเล็กทรอนิกส์ คอม ง่ายๆ แมคคานิคง่ายๆๆ ฟิสิกส์ง่ายๆ จีโอ (แหม น้องเปิ้ล ง่ายไปหมดเลยนะ เก่งจริ๊งๆ แซวหน่อย รุ่นน้องสถาบันเดียวกัน อิอิ - พี่นก)

Electronic - ก้อถาม พวกไดโอด ทรานซิสเตอร์ จำได้แต่ไอ้ที่ทำได้ ไอ้ที่ทำไม่ได้จำรูปได้คลับคล้ายคลับคลา เด๋วค่อยนึงเน้อออ P=IV / scope ที่มีรูปกราฟ อันนึง / แม่สีทีวี / ถ่านไฟฉาย / แบตรถยนต์ / (ลมติมล้อรถยนต์ - พี่นก)กี่ psi / เต้ารับปลั๊กไฟที่บ้านนน / มัลติมิเตอร์วัดไรบ้าง 4 อัน (คงหมายถึง วัดค่าอะไรได้บ้าง - พี่นก)

คอม - มี adsl / ram / usb / bios / lan เหล่านี้ย่อมาจากอะไร เกี่ยวข้องยังไงกับคอมพิวเตอร์ จงอธิบายมา

แมคคานิค - เป็นรอกสองอัน ดึง แรง T จากทั้งสองข้าง / เฟือง 2 อัน อันนึงเล็ก อีกอันใหญ่ (คิดว่าถามอัตราทดรองและทดแรง - พี่นก) / รีฟริดทำไมต้องมีคอมเพรสเซ่อร์ มีไว้ทำอะไรเอ่ย จงอธิบาย

ฟิสิกส์ - ถ่ายเทความร้อนก้อนสี่เหลี่มที่ผนังหนา ... / ถัง 3 ถังใส่น้ำมัน มีเเรงกดที่ถังนึง อีก 2 จะเป็นยังไง (คิดว่า ถังทั้งสามต่อท่อถึงกัน คือจะทดสอบความเข้าใจเรื่องกฏความดันของปาสคาลน่ะครับ - พี่นก) โดยให้ฟริคชั่นลอสเป็น 0 (friction loss = 0 - พี่นก) / 88 fm คืออะไร และ fm คืออะไร ย่อมาจากอะไร / แสงเดินทางเร็วเท่านี้ ถ้า ระยะทางเท่านี้ ใช้เวลาเท่าไหร่เอ่ย / pico watt = อะไรเอ่ย / megawatt = อะไรเอ่ย

จีโอ อันนี้ช็อก ถ้าถามตอน ม.3 จะตอบได้ 555++ - หินของโลกแบ่งเป็น 3 แบบ บอกมา 3 แบบ เเล้วยกตัวอย่างแต่ละอันมาด้วย

*** ข้อสอบมันเหมือนกันทุกปีด้วย เหมือนตอน drilling ด้วยค่ะ เลยคิดว่าน่าจะเหมือนกันหมดทั้งสาย (น้องเขาคงไปสอบมาทุกสาย - พี่นก)

แล้วก้อมีอิ้ง (english - พี่นก) อีก ไม่ยาก

มี IQ อันนี้ไม่ค่อยเหมือนที่มีในเนต ที่เป็นรูปๆๆ ส่วนมากจะเป็น โจทย์ยาวๆๆๆ งง ไป งง มา เเล้วก้อแกะโจทย์ออก มาเเล้วมา คำนวณนิดๆ แล้วตอบค่ะ

แล้วก้อเวลาต้องอย่าลืมจัดแบ่งดีดี อย่าทำสะเปะสะปะ มากมาก อยากทำตรงไหนก้อทำ อุ้ยทำเเล้วไม่ชัวเว้นไว้ก่อน

เเต่จริงๆๆเเล้วเพื่อนบอกว่า อย่างแรกให้ทำอิ้ง หรือไม่ก้อ อิ้งควรเสร็จเกือบหมด เเล้วก้อเทคนิค่อล ในส่วนที่ตัวเองเรียนจบมา ไอที่ไม่จบมา เอาไว้ก่อน ไม่เสียหาย เเล้วไอคิวไว้หลังสุด ประมาณว่า เอา 2 ก้อนเเรกให้ปึ้กกๆๆๆ

(เป็นไงครับ เพื่อนๆเราคนนี้ใจดีไหมครับ ไม่มีกั๊กไม่มีหวง ผมไมม่มีอะไรจะให้หรอกครับ นอกจากขอบคุณมากๆ และอวยชัยให้พรให้น้องเขามีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตของเขา)



Chevron ตำแหน่ง Horizon engineer (โดยผู้ใช้นามแฝงว่า รุ่นน้องพี่นก)

Horizon (ไม่ใช่ horizontal นะ) เป็น ชื่อ program training ของ non-experience petrotech ก็แล้วแต่ว่าจะเป็น program ของ discipline ไหน ถ้า PE = Pertroleum engineer, FE = Facilities engineer, ES = Earth Science

Horizon program จะ train เป็นเวลา 5 ปี พร้อมกับมี assignments ให้ทำ

1.คำถาม เค้าน่าจะถามแบบไหน
Reply : เน้น technical - engineering knowledges, senior projects, summer hire experience, less on soft skills รอบนี้จะสัมภาษณ์โดย engineer

2.การสอบสัมภาษณ์ มีสอบกี่รอบ
Reply : ปกติ 2 รอบ รอบแรกตามคำถาม 1, รอบสองจะสัมภาษณ์โดยผู้บริหาร คำถามจะเน้น soft skills เช่น attitude, teamwork, leadership, communication

Horizon program ของ facilities engineer (FE)/ petroleum engineer (PE)/ earthscience (ES) ไม่ต้องลงไปแท่นสำรวจและผลิตสัก 2-4 ปี ครับ จะลงเฉพาะตอนไปทำ on the job training หรือไปทำ projects พวก facilities engineer จะลงไปแท่นมากกว่า PE and ES ครับ FE อาจจะลงแทบทุกเดือน 3 - 14 วันต่อครั้งขึ้นกับ project, PE กับ ES ก็นานๆ ลงแท่นที

แต่ยังมี Horizon program อีก discipline นึง คือ Drilling ครับ (น่าจะย่อว่า DE - พี่นก) พวกนี้จะเป็นแบบที่พี่นกบอกครับ Horizon ของ Drilling ต้องลงไปประจำที่ Rig ในตำแหน่ง DSM ฝึกหัด (Drill Site Manager) เป็นปีๆ แล้วมาพิจารณาอีกทีว่าจะ rotate มาที่ office เมื่อไหร่ หรือพอใจที่จะอยู่ field operation ก็ตามแต่ครับ



ข้างล่างนี้เป็นข้อมูลจากน้องคนหนึ่งที่เพื่อนที่ทำงานไปสัมภาษณ์ Chevron ตำแหน่ง Horizon engineer เช่นกัน

-------------------------
มีข้อมูลมาจากเพื่อนที่ทำงาน เกี่ยวกะการสัมภษณ์เด็กจบใหม่มาน่ะค่ะ

เค้าสัมภาษณ์สองรอบ คำถามก็จะเหมือนกะที่มีคนมาโพสต์เอาไว้ที่บล๊อก (เข้าใจว่าเป็นของน้องข้างบน - พี่นก) เเต่อาจจะมีเพิ่มเติมเล็กน้อยตรงที่ว่า เค้าจะเน้นถามเรื่องที่เราฝึกงานมากหน่อย ถ้าเราฝึกงานกะเค้ามาก่อน เพราะเพื่อนหนูฝึกงานที่นั่นมาก่อน แล้วตอนสัมภาษณ์รอบสองนี่จะมีแต่ภาษาอังกฤษล้วนค่ะ เค้าจะถามไปเรื่อยๆ

เเล้วดูว่าเราตอบยังไง เเล้วเค้าจะเอาคำตอบที่เราตอบมาถามเราต่ออีกทีประมาณนี้น่ะค่ะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับน้องจบใหม่ที่จะไปสัมภษณ์ในวันที่ ๑๖ นี้น่ะค่ะ

Materials Mutation. (เข้าใจว่าเป็น นามแฝงของน้องผู้น่ารักคนนี้)



Weatherford ตำแหน่ง Asset management โดย น้องเปิ้ลคนเดิมกะคนข้างบนนั่นแหละ

"ทำเชียร์นิ น้องว้ากๆๆเป่า"
เเล้ว weatherford เป็นไงบ้างรู้ไรบ้าง
เเล้วเข้ามาออฟฟิสเป็นไง
รู้เปล่าคู่เเข่งเราเป็นที่ไหนบ้าง
เเล้วลูกค้าล่ะ
" เรียนไรมาเอ่ย อ๋อ instru แล้วมาแนวนี้ได้ยังไงอ้ะนี่ แล้วอยากทำมั้ย เกรงว่าแบบ engineer จะอยากทำ engineer ทำอันนี้ได้หร๋อ"
engineer Vs business in office ว่าน้องจา(ทำ)ได้ไหม
"รู้มั้ยคะ ว่าตอนนี้ทำไรบ้าง "
"ไปoverseeได้เปล่า"
"บ้านโอเคมั้ย ไม่ว่านะ ต้องไปนู่นไปนี่ ไม่ได้กลับบ้าน"
ไอ้ control system นี่มันอะไรอ่ะน้อง เป็นโปรเเกรมเปล่า
เเล้วก้อทำงานกับผู้ชายหร๋อคะ ทำได้หร๋อ (ตรงคำตอบน้องเปิ้ลผมล่ะไว้ไม่เอามาลง แต่คำตอบเธอทำให้เกิดคำถามต่อมาได้ไง คิดดูเอาเองว่าน้องเปิ้ลตอบว่าไง - พี่นก)
เเล้วยังไง อยู่ได้ไง ทำงาน ได้ไง มีปัญหาไรบ้างเปล่า เล่าให้ฟังหน่อยๆๆ
จุดอ่อนจุดแข็ง
word point outlook ได้นะ
JDE คือไรรู้เปล่า
คุยกะ คนต่างชาติได้เปล่า สิงคโปร์ มาเล ...
ส่งเมลล์อิ้ง(ไม่รู้จะย่อทำไม เธอจะบอกว่า ภาษาอังกฤษนะครับ - พี่นก)ได้เปล่า
เกิดงานมานมาล้นทำกันไม่ทัน อยู่ทำงานได้ไหม อาจต้องดึก
เเล้วถ้างานมาทุกเดือนๆๆๆล่ะ
มีอะไรที่เราคิดว่าพี่จะเลือกเข้าไปทำงาน แบบ มีอะไรเด่นกว่าคนอื่นอ้ะเปล่า
บ้านน้องอยู่ไหนนิ
เดินทางมายังไง
กี่นาทีถึงอ่ะ
อายุ xxx ใช่ป้ะ
เเล้วก้อวนไปวนมาเรื่อง บางเรื่องที่ยัง งง งง กันทั้งคู่ เรื่องสภาพเเวดล้อมฝึกงาน กับเรื่องลด costๆๆ กับ จิปาถะ (จำไม่ค่อยได้เเล้วอ่ะค่ะ)
เเล้วก้อเค้าถามว่ามีไรถามบ่
เเล้วถ้าสมมติรับน้องเเล้วเริ่มงานได้เมื่อไหร่
เเล้ว xxxx บาท โอมั้ยค่ะ โอเค นะอยากเท่าไหร่มั้ย

(ไงครับ ละเอียดดีไหมครับ ... ขอบคุณน้องเปิ้ลไว้ ณ.ที่นี้อีกที ใครจำอะไรได้ก็เอามาแบ่งปันนะครับ ละเอียดๆได้ก็ดี แต่ไม่ละเอียด จำได้ 2-3 คำถาม ก็อีเมล์บอกกันได้ครับ คนล่ะ 2 คำถาม 10 คนก็ 20 คำถามแล้วครับ)



14/1/2010 - มาแล้วครับ ใหม่สดๆ สัมภาษณ์กันทาง Skype ตรงจาก อเบอร์ดีน (อังกฤษ) ตำแหน่ง วิศวกรสนาม ของ Baker oil tool

the legal work area
ถามว่าจะเริ่มงานให้เค้าได้เมื่อไหร่
ทำไมถึงสนใจอยากทำงานให้เค้า
ให้เลือกระหว่าง ...... กับการวิเคราห์ failure (จุดๆๆ ที่เว้นไว้ผมเดาไม่ออกจริงๆ - พี่นก)
แนะนำมหาลัยที่เรียน (เดาว่าให้คุยให้ฟังถึงมหาวิยาลัยที่น้องเขาจบมา เป็นคำถามอุ่นเครื่องเพื่อเช็คคุณภาพเสียง เพราะคุยกันผ่าน internet phone - skype น่ะครับ และ เป็นการอุ่นเครื่องคนถูกสัมภาษณ์ด้วย ไม่ให้ตื่น ก่อนเจาคำถามเอาจริง)

(สั้นๆไปนิดแต่น้องเขาบอกว่าจะมีภาคสอง- พี่นก)

ตำแหน่ง Horizon facilities ของ Chevron นะครับ สัมภาษณ์ไปปลายๆเดือน มค. 2010
(เพื่อนเราคนนี้จบเครื่องกล ผมขอลบที่ตอบออกไปนะครับ เอาแต่ที่คณะกรรมการถาม - พี่นก)

1. เริ่มแรกเค้าให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ถึง 5 นาทีอย่างที่พี่นกบอกครับ พูดไปยังไม่ถึงนาที พี่เค้าบอกให้พรีเซนต์โปรเจคที่ทำเป็นภาษาอังกฤษแทน โดยให้พรีเซนต์หน้าห้อง ซึ่งเข้าใจว่าห้องสัมภาษณ์ทุกห้องเตรียม white board ไว้พร้อม ขณะที่พรีเซนต์โปรเจค เค้าก็ถามเรื่อยๆ เกี่ยวกับโปรเจค ถามว่าใช้ทฤษฎีอะไร สูตรคำนวณต่างๆ ที่เกียวข้อง ตัวแปรจากสูตร มายังไง สัมพันธ์กันยังไง ปัญหาที่เกิดขณะทำโปรเจค ทำกันกี่คน ส่วนนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หลายๆคำถาม เช่นถามว่า ใช้สูตรคำนวณอะไร นี่อึ้งครับ เพราะจำสูตรไม่ได้ บางสูตรก็จำได้ แต่บางสูตรจำไม่ได้จริงๆ เช่น xxx อันนี้จำสูตรไม่ได้จริงๆ

ถามรายละเอียดโปรเจคเยอะมาก ถามถึงสูตรที่คำนวณเลย ซึ่งจำไม่ได้จริงๆๆ ถามเกี่ยวกับ สูตรนึงที่ผมใช้ ในการคำนวณ เรื่อง xxx ว่าสูตรคืออะไร แรง F ที่หาได้ สัมพันธ์ยังไง กับ M ผมตอบไปว่า xxx แถมให้เขียน shear , moment diagram ของแรงที่กระทำต่อคาน ผมตอบไปว่า xxx

2. จากนั้นก็มาสัมภาษณ์เรื่องฝึกงาน เผอิญผมไปฝึกงานด้าน piping engineer ที่ XXX มา เค้าเลยถามเกี่ยวกับเรื่องฝึกงาน โดยให้เล่า ว่าหน้าที่ทำอะไร อันนี้ก็ตอบไปเรื่อยๆ โดยคำถามที่แทรกมาก็เกี่ยวกับงานที่ทำ เช่น

2.1 วาล์วมีกี่ประเภท ผมก็ยกตัวอย่างไป เค้าก็ถามต่อว่า Gate Valve กับ Ball Valve ลักษณะการทำงาน เป็นไง
2.2 Pump ทำงานยังไง หน้าที่คืออะไร พอตอบไปว่า xxx เค้าก็ถามต่อ โดยยกเหตุการณ์สมมติ เช่น

Q: มี Tank อันนึงต่อท่อจาก nozzle มาที่ปั๊มข้างล่าง โดยหันด้าน suction ของปั๊มต่อกับท่อที่ต่อจากแท็งก์ ถามว่าทำงี้ถูกหรือไม่

A: xxx เค้าก็ถามใหม่ โดยตั้งโจทย์ว่า

Q: มี Tank สองอันต่อถึงกัน น้ำในแท็งก์อีกอันสูงกว่าอีกแท็งก์ จะปั๊มยังไงให้น้ำไปอีกแท็ง

A: คือตอนนั้นเริ่มถูกกดดัน นึกไรไม่ออกก็เลยตอบไปว่า xxx .. แฮะๆๆ พี่เค้าเริ่มรัวคำถามตามมาว่า

Q: เอาใหม่ ถ้าแท็งก์สองอัน อันนึงมีน้ำเต็ม อีกอันไม่มีน้ำเลย ทำไงให้น้ำไหลไปที่แท็งก์เปล่าจนเต็ม ใช้ความเร็วเท่าไหร่ เวลาเท่าไหร่ ประมาณนี้ครับ

A: ถึงตอนนี้ผมอึ้ง พร้อมกับคิดในใจเสร็จแน่กรู..ก็ตอบไปว่า xxx

เค้าเลยให้เขียนสูตร ผมก็ตอบไป xxx เค้าถามต่อว่า มวลหายังไง น้ำมีมวลเท่าไหร่ ผมก็ตอบว่า xxx ก็ขอเค้าใช้กระดาน เลยยืน realize สูตร โดยแปลงให้ใช้ค่า xxx ถึงตอนนี้เค้าบอกพอแค่นี้..เค้าคงเห็นยืนนานไปหน่อยเพราะ xxx ..อิอิ

3. จากนั้นก็ถามเรื่องกิจกรรม เริ่มก็ถามเรื่อง ความเป็นผู้นำ ทำอะไรมาบ้าง เผอิญผมเล่นกีฬาก็ตอบไปว่าเคยเป็นกัปตันทีมฟุตบอล ประธานชมรมฟุตบอล เค้าก็ถามมีปัญหาอะไรบ้าง เคยทะเลาะกับใครหรือไม่ กรณีปัญหาที่เกิดตอนทำกิจกรรม แก้ปัญหายังไง เคยทำอะไรที่เป็น Innovation มั่งหรือไม่ ความภูมิใจที่สุด สิ่งที่เสียใจที่สุด

สุดท้ายก็เปิดโอกาสให้เราถามคำถาม ผมก็ถามเรื่องงาน ลักษณะงานที่ทำ หรือ บรรยกาศการทำงาน เผอิญว่าผมฝึกงานมาใกล้เคียงเลยคุยกับเค้าได้บ้าง เรื่องเกี่ยวกับ piping, pipeline เค้าเลยถามว่าถ้าให้เลือก ตำแหน่งที่เค้าลิสต์ให้ดู ในแผนก มีพวก pressure vessel, maintenance, corrosion, piping + pipeline, etc. ก็เลยตอบเค้าไปว่า ถ้าให้เลือกขอเลือก xxx เค้าก็ถามว่าทำไม ผมก็บอกเค้าไปว่า xxx แล้วตบท้ายไปว่า xxx (ศึกษา เรื่องบริษัท หรือ ลักษณะงานที่ CV ทำมาก่อน)

(ไงครับ - อึ้งไหมครับ อย่างนี้ผมเรียกได้ว่า hardcore สุดๆ ถามเทคนิคกันแบบไม่เลี้ยง เพื่อนเราคนนี้ก็ไม่เบา ซดกันหมัดต่อหมัด แสดงว่า คณะกรรมการคงเห็นว่า CV และ transcript แข็งแรง เลยโดนลองของ ดูจากคำตอบของเพื่อนเราคนนี้ ที่ผมติด xxx ไว้ ก็ต้องบอกว่าตอบได้ดีทีเดียว ถึงได้โดนรัวถามต่อเป็นชุดๆ - พี่นก)

=========================

ตำแหน่ง Horizon facilities ของ Chevron นะครับ สัมภาษณ์ไปปลายๆเดือน มค. 2010
(เพื่อนเราคนนี้จบอะไรจำไม่ได้ครับ ผมขอลบที่ตอบออกไปนะครับ เอาแต่ที่คณะกรรมการถาม - พี่นก)

พี่เขามีอยู่สามคน / แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ / ถามเรื่องโปรเจ็ก ทดสอบความรู้ทางวิดวะ เช่น ให้เขียน FBD BMD / ถามเรื่องคุณสมบัติคอนกรีตกับเหล็ก / ถามเรื่องกิจกรรมที่เราทำมา แล้วก็คุยเรื่องต่างๆเกี่ยวกับครอบครัว

(FBD BMD นี่อะไรผมก็ไม่ทราบแฮะ - พี่นก)

===============================

ตำแหน่ง Horizon facilities ของ Chevron นะครับ สัมภาษณ์ไปปลายๆเดือน มค. 2010
(เพื่อนเราคนนี้คุ้นๆว่าจบเคมีหรือวัสดุศาสตร์ ผมขอลบที่ตอบออกไปนะครับ เอาแต่ที่คณะกรรมการถาม - พี่นก)

คำถามนี่ก็ลองภูมิกันสุดๆไปเลย
เริ่มจากเบสิคที่ต้องโดนเลยว่า ที่ทำงานมาทำอะไรมาบ้าง
จากนั้นก็ลองภูมิในสายงานที่เราทำน่ะค่ะ
ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ที่สำคัญคือ ภาษาอังกฤษค่ะ
ให้อธิบายซีเนียร์โปรเจคเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมเขียนปฏิกิริยา
ถามคำถามเชิงเกี่ยวกะ standard ที่เราเคยผ่านงานมา เช่น ASME B31.3
ถามว่า Pressure Drop ในท่อเล็กกะท่อใหญ่อันไหนมากกว่ากัน?
ถามว่าผนังท่อควรจะหนาเท่าไหร่เราจะรู้ได้ไง? หนูเลยบอกเค้าว่า xxx
สัมภาษณ์กันเสร็จ เค้าก็ถามว่าอยากรู้อะไรมั้ย? ให้ถามได้

===============================

ตำแหน่ง Horizon facilities ของ Chevron นะครับ สัมภาษณ์ไปปลายๆเดือน มค. 2010
(เพื่อนเราคนนี้เป็นเด็กจบใหม่ สายวัสดุศาสตร์ ผมขอลบที่ตอบออกไปนะครับ เอาแต่ที่คณะกรรมการถาม - พี่นก)

อย่างแรกให้แนะนำตัวเป็นภาษาไทยค่ะ แล้วเค้าก้อถามคำถามเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย (อันนี้อึ้งนิดนึงเพราะตอนที่ถามพี่เค้าก่อนไปสัมภาษณ์ พี่เค้าบอกว่าน่าจามีภาษาอังกฤษนิดหน่อย)

คำถามแรกเป็นคำถามเกี่ยวกับโปรเจคที่เราทำค่ะ ถามแบบละเอียดยิบ ถึงลูกถึงคนเลยจริงๆ

ต่อมาก้อถามถึงวิชาที่ชอบเรียน พอพูดชื่อวิชาเท่านั้นแหละ....ไล่ถามตั้งแต่พื้นฐานเลย อย่างเช่น เราตอบไปว่าชอบวิชา heat treatment เค้าก้อถามเลยค่ะว่า
- มันมีกี่แบบ แต่ละแบบเปงไงบ้าง ให้วาดกราฟแล้วอธิบายให้เค้าฟังด้วยว่าข้อดีข้อเสีย ผลที่ได้ของการทำแต่ละอันเปงไง ทำไมต้องทำแบบนั้น ปรามานนี้ค่ะ
- มีคำถามเกี่ยวกับเรื่อง corrosion เยอะพอสมควร คือก้อรู้ตอนออกมาจากห้องแล้ว...... มีคนไปสืบมาว่า เค้าต้องการคนที่รู้ด้านนี้พอดี (ถึงว่าทำไมถามเยอะจัง....ไอ้เราก้อซวยเพราะพึ่งรู้)

ปรากฏว่าโดนไปหลายดอกมาก เริ่มตั้งแต่ลักษณะการเกิด...เกิดได้ยังไง stess corrosion เป็นไง hidrogen reduction เป็นไง แล้วชนิดของ corrosion อื่นๆ อีกค่ะ เค้าให้อธิบายแบบวาดรูปอารายปรามาณนี้ อานนี้ยากส์เชียวเพราะ ถามเยอะมาก และมานลืมไปแล้วววววววววว *-*--*-*-*-*

ต่อมาก้อถามถึงความรู้ของวัสดุโดยรวมๆ ค่ะ เช่น steel กับ stainless steel ต่างกันยังไง และทำไมถึงต่างกัน
- รู้จัก alloy ไหม ช่วยบอกหน่อยได้มั้ยว่า เราจะเติมธาตุอะไรเข้าไปในเหล็กบ้าง แล้วผลที่เติมธาตุเหล่านั้นเข้าไปเป็งยังไง แล้วเติมไปแล้วเอาไปประโยชน์ในด้านไหน
-คุณคิดว่าโละหะชนิดไหนแข็งที่สุด ทำไมคิดแบบนั้น แล้วมันเอาไปใช้ทำอะไร

รวมๆ แล้วก้อประมาณนี้นะค่ะ ส่วนใหญ่ถามแต่คำถามวิชาการทั้งนั้น และเค้าก้อให้แสดงกราฟและวาดๆ อธิบายๆ ให้เห็นภาพตลอดเลย พูดได้ว่าไม่ได้นั่งสัมภาษณ์เลย ยืนตลอด (ไม่รู้ว่าคนอื่นโดนแบบนี้รึเปล่า)

(เข้าใจว่า ตำแหน่งนี้เขาน่าจะมุ่งไปที่วิศวกรในออฟฟิต ไม่ใช่วิศวกรสนาม เพราะต้องการแบบที่ปึ๊กๆทางวิชาการ เพราะถ้าสัมภาษณ์เอาวิศวกรสนาม คงไม่ลงลึกละเอียดขนาดนี้น่ะครับ - พี่นก)

===============================

ตำแหน่ง วิศวกรอะไรสักอย่าง ของ Chevron นะครับ สัมภาษณ์ไปปลายๆเดือน มค. 2010
(เพื่อนเราคนนี้เป็นเด็กจบใหม่ สาย Mechatronic - พี่นก)

ในห้องสัมภาษณ์ มีคนสัมภาษณ์ทั้งหมดสามคนค่ะ จะมีพี่คนหนึ่งเหมือนเป้น Head หน่อยๆจะเป้นคนเริ่มพูดให้แนะนำตัวค่ะ เป็นภาษาอังกฤษ แล้วก้เป็นโปรเจคค่ะ ก้ออธิบายก่อนว่าโปรเจคทำอะไร มีที่มายังงัย สั้นๆ แล้วพอถึงขั้นนี้ พี่เค้าก้อให้เปลี่ยนเป้นการอธิบายโปรเจคเป้นภาษาไทย พี่เค้าก้อให้เขียนบกระดานก็ไล่สเตปให้ดีอะคะ ว่าต้องอธิบายอะไรก่อนหลังเพื่อให้ผู้ที่ไม่รุ้จักโปรเจคเราเลยเข้าใจในโปรเจคของเรา พี่เค้าถามลึกมากเลยค่ะ ผลัดกันถามทีละคน ว่าทำงานยังงัย ใช้เซนเซอร์อะไรบ้าง PLCมีหลักการยังงัย หลักการเขียนโปรแกรมต้องเขียนอย่างไร เป็นต้นค่ะ พอจบเรื่องโปรเจค พี่เค้าก้อดูทรานสคริปส์แล้วก้อถามแต่วิชา instrument กับ feedback control พี่เค้าถามว่า ถ้าให้น้องเป้นติวเตอร์สอนสองวิชานี้ จะติวอย่างไร คนที่มาฟังติวต้องรู้อารายเกี่ยวกับวิชานี้บ้าง ตรงนี้พี่เค้าก้ให้ขึ้นกระดานสอนเลยค่ะ เขียนแต่ภาษาอังกฤษนะคะ ห้ามเขียนภาษาไทย พอจบตรงนี้เค้าก้อเริ่มถามเกี่ยวกับว่า ทำโปรเจคมีปัญหาอะไรบ้าง เป้นหัวหน้ากลุ่มบ้างหรือเปล่า อะไรที่ภูมิใจที่สุด หลังจากนั้นก้อจบแล้วค่ะ แต่พี่เค้าก็แอบคอมเม้นท์ให้ว่า เวลาไปสัมภาษณ์ต่อๆไปห้ามตอบว่า "มั้ง" "เหอะ" เพราะว่า HR เค้าจะคิดว่าเราไม่มั่นใจ

(เพื่อนเราคนนี้ผ่านเข้ารอบสองครับ - พี่นก)

====================================

ต่อจากน้องสาวคนข้างบนที่ว่าผ่านรอบเข้ารอบสอง น้องใจดีเอาคำถามสอบสัมภาษณ์รอบสองมาฝากอีก ตามเคย ผมขอตัดที่น้องเขาตอบออกไปล่ะกันนะครับ

วันนี้หนูไปสัมภาษณ์รอบสองมาแล้วนะคะ รอบนี้จะถามเกี่ยวกับทัศนคติของเราค่ะ ซึ่งจำนวนของคนที่สัมภาษณ์จะขึ้นอยู่กับแผนกค่ะ ของหนูมีทั้งหมดสี่คน เริ่มจากฝ่ายบุคคลพาเราไปแนะนำกะผู้บริหารที่มารอสัมภาษณ์เราและคนที่คิดว่าจะต้องทำงานกับเราในอนาคต เหมือนเป็นหัวหน้าน่ะค่ะ

คำถามส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นเรื่องเกี่ยวงานที่หนูทำ

ก.ทำอะไรมาบ้าง? เจอปัญหาแบบนี้แก้แบบไหน?
ข.มีอะไรบ้างมั้ยที่เราคิดว่าอยากกลับไปแก้ไขอดีตถ้าย้อนกลับไปได้?
ค.ตอนเรียนทำกิจกรรมอะไรบ้าง? มีความเป็นผู้นำยังไงบ้าง?
ง.ในการทำงานของคุณเคยคิดค้นหรือว่าหาความรู้อะไรใหม่ๆบ้างมั้ย?
จ.ตอนเรียนมัธยมทำอะไรบ้าง?
ฉ.ถ้าเราขัดแย้งหรือมีความคิดเห็นต่างกับคนที่เป็นหัวหน้าเราจะทำยังไง? แก้ปัญหายังไง?
ช.เคยมีบ้างมั้ยเวลาที่ทำงานแล้วแก้ปัญหาไม่ได้? แล้วทำยังไง?
ซ.เคยโมโหอะไรมากๆมั้ย? แล้วทำยังไง? (คำถามนี้ฮามากค่ะ)

ส่วนใหญ่จะดูว่าเราจะตอบยังไง? มีแนวความคิดยังไงบ้างประมาณนี้น่ะค่ะ หนูก็ตื่นเต้นมาก จำได้คร่าวๆประมาณนี้

(โอ้ โห ... ขอพี่นกแซวหน่อย ขนาดตื่นเต้น ยังจำมาได้ขนาดนี้เลย ปรบมือให้ และขอบคุณมากๆครับ)

================================

ส่วนตอนนี้เป็นสัมภาษณ์ของตำแหน่ง DSM trainee (Drill Site Manager) ที่ผมได้อธิบายลายละเอียดลักษณะงานไว้ใน FAQ#13

เริ่มจากเข้าไป มีคนสัมภาษณ์ ด้วยกัน 4 ท่าน ฝรั่ง 3 คน ไทย 1 คน ฝรั่ง 3 คนเป็นคนสัมภาษณ์ซะเเยะครับ เป็น Drilling operation manager 1, Drilling superintendent 2

1-เริ่มด้วยให้ผมฝอยซะนานเลยครับ พูดไปๆ เกือบ 10 ได้มั้งผมว่า นานมากกกกกก
2-ถามว่า คุณรู้หรือป่าวว่า ตำเเหน่งนี้มันเกี่ยวกับอาราย
3-คราวนี้เค้าก็เล่าให้ฟังครับ - บนนั้นทำงานหนัก คุณไม่กลัวเปื้อนนะ ทนเเดดทนฝนได้นะ เพราะ trainee ต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองบน rig คล้ายเปน operator เลยนะ เค้าก็ถามต่อว่า ทำไมคุณถึงคิดว่า คุณทำได้
4-เค้าก็ถามต่อว่าคุณเคยทำอะไรที่เป็นลักษณะ ผู้นำบ้างมั้ย
5-ทำไมคุณอยากจะทำงานบน rig
6-ถามว่าคุณเคยไป สัมภาษณ์ที่ไหนมาบ้าง
7-ถามว่า คุณเคยทำอะไรที่เป็น innovative มาบ้าง
8-เค้าถามเกี่ยวกะ คติประจำใจ
9-เค้าถามว่า มีอะไรจะถามเค้ามั้ย

(ขอบคุณมากๆไว้ ณ.ที่นี้ ที่ทุกคนมีน้ำในแบ่งปันกัน เห็นไหมครับ แค่คนล่ะนิดๆหน่อยๆ หลายๆคน แทบจะเป็นคู่มือเตรียมสอบสัมภาษณ์ได้เลยนะเนี่ย)



อันนี้เป็นของ บ. Halliburton บ.ใหญ่อีกบ.หนึ่งในวงการ ด้าน service company
ตำแหน่งก็เป็นแนวๆวิศวกรสนาม กับ Reservior Evaluation Service นะครับ

1. ข้อเขียน อันนี้เหมือนที่พี่โพสไว้ในบล็อกค่ะ หนูจำคำถามไม่ค่อยได้ค่ะ แต่อ่านแล้วก็คุ้นๆตามนั้นเหมือนกัน นอกจากส่วนที่เป็นความรู้วิศวะฯ ก็จะมีส่วนของภาษาอังกฤษค่ะ จะมีบทความ 2 บทความ คือบทความภาษาอังกฤษ ให้เราแปลเป็นภาษาไทย กับบทความภาษาไทย ให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ คือมันก็ไม่เชิงเป็นบทความหรอกค่ะ เรียกว่าเป็นข้อความ 1 ย่อหน้าดีกว่าค่ะ ประมาณ 6-8 บรรทัดค่ะ ถ้าจะไม่ผิดนะคะ

2. สัมภาษณ์รอบแรก เป็น Group Activities ค่ะ วันที่ไปมีประมาณ 8-10 คน ถามเพื่อนๆที่ไปวันอื่นๆก็มีจำนวนคนพอๆกันค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กจบใหม่ทั้งนั้น เริ่มเข้าเรื่องดีกว่านะคะ มีพี่นั่งฟัง2คนค่ะ เข้าใจว่าเป็นพี่จาก Field 1 คนกะพี่ HR 1 คนค่ะ เริ่มด้วยการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษค่ะ พูดเรียงกันไปเลย เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังเพื่อนๆแนะนำตัวเอง พี่เค้าบอกว่าให้พูดคร่าวๆพอ ไม่ต้องเยอะ พูดถึงฝึกงานกับซีเนียร์โปรเจคเป็นหลักค่ะ แล้วก็มีกิจกรรมที่ทำด้วย

หลังจากนั้นก็แบ่งกลุ่ม debate กัน ก็แบ่งกันครึ่งๆค่ะ พี่เค้าให้หัวข้อมา ให้เวลาคิดประมาณ 15-20 นาที แล้วผลัดกันออกไป debate ค่ะ มีฝ่ายเห็นด้วยกะไม่เห็นด้วยก็ผลัดกันพูดทีละฝ่ายค่ะ หัวข้อที่ debate มี 2 หัวข้อ เป็นเรื่องทั่วๆไป เริ่มทีละหัวข้อค่ะ จบหัวข้อแรกพี่เค้าก็เปลี่ยนกลุ่มแล้วค่อยบอกหัวข้อถัดไป แต่แล้วแต่วันสัมภาษณ์นะคะ เพื่อนที่ไปอีกวันบอกว่าไม่มีเปลี่ยนกลุ่ม debate หัวข้อถัดไปเลย

จบวันสัมภาษณ์วันแรกค่ะ

3. สัมภาษณ์กะพี่ที่แผนก (คือหนูว่าของหนูมันเป็นกรณีแยกออกมา ไม่เหมือนคนอื่นๆ) หลังจากสัมภาษณ์กลุ่มไปประมาณอาทิตย์นึง พี่ HR ก็โทรมาบอกว่าพี่อีกแผนกสนใจ ให้เข้ามาคุยค่ะ ที่พูดคุยก็สบายๆค่ะ ไม่เครียด ไม่เกร็ง ทุกอย่างใช้ภาษาไทยค่ะ เริ่มมาพี่เค้าก็ให้แนะนำตัว แล้วพี่เค้าก็ถามถึงซีเนียร์โปรเจคที่ทำอยู่ มีปัญหาอะไรมั๊ย ในกลุ่มเคยทะเลาะกันมั๊ย เรื่องอะไร แก้ปัญหายังไง ส่วนคำถามอื่นๆประมาณนี้ค่ะ

- เรื่องที่ผิดหวังหรือเสียใจที่สุดที่เคยเจอมา หรือเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดที่เจอมา และวิธีแก้ปัญหารับมือกับเหตุการณ์นั้น <-- จำคำถามแน่ๆไม่ได้อะค่ะ แต่ประมาณนี้
- ชอบเรียนวิชาไหน เพราะอะไร แล้ววิชานั้นมันคืออะไร ใช้ทำอะไร
- คิดว่าวิชาไหนที่จะนำมาใช้ในการทำงานได้บ้าง
- รู้อะไรเกี่ยวกับงานแผนกนี้มาบ้างมั๊ย
- ถ้าทำงานไม่ตรงสาย หรืองานที่ทำไม่ได้ใช้วิชาที่เรียนมาเลย จะเป็นไรมั๊ย
- ช่วงเวลาที่เครียดมากๆคือช่วงไหน รับมือยังไง

อันนี้เท่าที่จำได้นะคะ

4. ไปดูงานที่แผนก หลังจากรอบที่แล้วพี่เค้าก็นัดให้ไปดูงานที่จะทำค่ะ ไปถึงก็เจอพี่ๆในทีม แล้วก็มีพี่คนนึง เหมือนจะเป็นพี่เลี้ยงของหนูในวันนั้นอะค่ะ พี่เค้าก็เอา log มาให้ดู แล้วบอกว่าเดี๋ยวลองบอกพี่เค้าว่า log นี้มันมีอะไรบ้าง แล้วพี่เค้าก็ช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่าจริงๆมันคือยังไง เสร็จแล้วพี่เค้าก็เล่าว่างานทำอะไร เป็นยังไง ถ้าต้องทำงานกลางคืนจะทำได้มั๊ย แบบโทรบอกก่อนล่วงหน้า1ชม ต้องมาให้ถึงบ.นะ มาทำงานตอนนั้น ที่บ้านจะว่าอะไรมั๊ย แล้วจะมายังไง อะไรประมาณนี้ค่ะ

แล้วพี่เค้าก็ลองให้ใช้โปรแกรมทำ log ขึ้นมาอ่ะค่ะ มันจะมีตัว how to สอนอยู่ ก็ทำตามนั้น ระหว่างที่ทำอยู่ พี่เค้างานเข้ากันค่ะ หนูเลยนั่งดูพี่เค้าทำงานกัน ก็งงๆ ไม่รู้เรื่องซะเท่าไหร่ แล้วก็รอเวลา นั่งดูพี่เค้าทำงาน +แก้ปัญหากันไปเรื่อย แล้วก็จบค่ะ ครึ่งวันผ่านไป พี่เค้าก็ให้กลับค่ะ

5. สัมภาษณ์กะนายฝรั่ง ยังไม่ได้สัมภาษณ์ค่ะ

(ผมเข้าใจว่าขั้นตอน 1 กับ 2 เป็นของตำแหน่งทั่วไปรวมถึงวิศวกรสนาม แต่ CV ของน้องคนนี้คงเตะตาแผนก Reservoir Evaluation Service ก็เลยดดนเรียกไปสัมภาษณ์พิเศษแยกออกมานะครับ - พี่นก)

=================================

การสอบสัมภาษณ์ตำแหน่ง DSM trainee ของ Chevron
สอบสัมภาษณ์ทั้งหมด 2 รอบครับ ทั้งสองรอบ สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหมดเลยครับ

(DSM = Drill site manager ประมาณว่าเป็นคนคุมแท่นขุดทั้งแท่นนะครับ - พี่นก)

รอบแรกคนสัมภาษณ์ทั้งหมดสามคนเป็นต่างชาติล้วนเลยครับ เขาเป็น Drilling operation manager 1 คน, Drilling superintendent 2 คน
1. ให้แนะนำตัวเอง
2. ถามเกี่ยวกับงานที่เราทำอยู่ ณ ตอนนี้ว่าเราทำอะไรตำแหน่งอะไร
3. ผลงานที่เราทำมามีอะไรบ้างที่เด่นๆ
4. เราเคย Lead อะไรบ้างไหม
5. ถามเกี่ยวกะเรื่องการอบรม Safety ว่าอบรมเรื่องอะไรมาบ้าง
6. ถามเกี่ยวกับงานอดิเรก
7. ถามว่าเคยมีปัญหากะคนแผนกอื่นในบริษัทไหมแล้วแก้ปัญหายังไง
8. แล้วเขาก็อธิบายให้ฟังว่า DSM trainee จะต้องทำอะไรบ้าง
9. แล้วเขาก็ถามว่า ทำงานเดือนนึงหยุดสองอาทิตย์คุณมีปัญหาอะไรไหม

ส่วนรอบสองเป็นชาวต่างชาติสองคนสัมภาษณ์
1. ให้แนะนำตัวเอง
2. ถามเกี่ยวกับงานที่เราทำอยู่ ณ ตอนนี้ว่าเราทำอะไรตำแหน่งอะไร
3. เราเคย Lead อะไรบ้างกับคนเยอะๆ แล้วจำนวนกี่คน
4. เคย Lead project อะไรแล้วไม่ on time บ้างไหม แล้วคุณแก้ไขปัญหายังไง
5. ถ้ามีปัญหากับแผนกอื่นเราจะทำอย่างไรแก้ปัญหาอย่างไร
6. คุณกลัวความสูง หรือเมาเรือไหม

=====================================

ตำแหน่ง safety office ของ Seadrill

(บ.นี้เป็นบ.แท่นขุดเจาะสำรวจที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลก มีแท่นในอ่าวไทย 4 - 5 แท่น เป็นบ.เจ้าแรกเจ้าเก่าแก่อยู่ในอ่าวไทยเรามาตั้งแต่เราเจอก๊าซสมัยแรกๆ ข้างล่างนี้เป็นที่เพื่อนเราเขียนมาเล่าให้ฟัง .... พี่นก)

ผมไปสัมภาษณ์ตอน 7.30 น. ครับ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยสัมภาษณ์กับฝรั่ง HSE Manager สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในเวลาจำกัดทำยังไงถึง present ตัวเองได้น่าสนใจที่สุด และที่สำคัญเสนอตัวเองโดนในส่วนที่เขา expectation ไว้มากที่สุด

- อันแรกแนะนำตัว คร่าวๆ ระหว่างที่แนะนำตัวเขาฟังพร้อมกับดู CV เราคร่าวๆ
-ถามเรื่อง Waste Management ไม่ยากอะไรครับ ประมาณว่าต้องทำไง ขยะคืออะไร
- บ้านอยู่ไหน
- ผมขึ้นตรงกับใคร (Top Management) (คงหมายถึงงานเก่า ... พี่นก)
- ภาษาอังกฤษเป็นยัง ดู TOEIC พอดีผมได้ ประมาณ xxx เขาก็บอก น่าจะพูดสื่อสารได้นะ ใช่ไหม
- พิมพ์ดีด ได้ไวไหม
- มีอะไรถามเขาบ้าง - ผมถามไปว่า What's your expectation for this position? บลาๆๆ

=========================================

บริษัท Stuart Wright http://www.stuartwright.com.sg/ ที่ Singapore ตำแหน่ง Well Engineer

มีคนสัมภาษณ์ผม 3 คน เป็น Hr, Senior well engineer และ Manager อย่างละคนครับ ห้องสัมภาษณ์เป็นแบบโต๊ะกลม เหมือนกับนั่งประชุมกัน แรกๆ เค้าก้อถามความเป็นมาทั่วไป เช่นว่า ตอนนี้ทำงานที่ไหน ทำด้านอะไรอยู่ ตอนเรียนทำ Project อะไรมาบ้าง ชอบเรียนวิชาอะไรที่สุด ทำไมถึงสนใจทำงานกับบริษัทเรา แล้วเค้าก้อให้อธิบายจุดเด่นและจุดด้อยของผมสลับกัน

หลังจากนั้นเค้าก้อ Present เกี่ยวกับบริษัทประมาณ 15 นาทีเห็นจะได้ แต่พอ Present จบ เค้าดันให้ผมสรุปว่าผมเข้าใจอะไรบ้าง ให้พูด 5 นาที

ผมคิดว่าน่าจะหมดการสัมภาษณ์ คงจะถึงเวลาที่ผมจะได้ถามอะไรบ้าง แต่ปรากฎว่า ดันยื่นสูตรเกี่ยวกับ สมการการไหลของของเหลว มาให้ผม derive สดๆ แถมยังไม่พอ ยื่น Notebook มาให้ผมใส่สูตร พร้อมด้วย data อีก 2 ชุด ใน Excel แล้วก้อให้อธิบายข้อมูลดังกล่าวเปรียบเทียบกันให้เค้าฟัง (สุดๆเลยครับ เจอ hardcore ... พี่นก)

===========================================

ตำแหน่ง MWD/LWD field engineer (Trainee) ของ Halliburton ..... (น้องคนนี้ส้มหล่นได้ไปเต็มๆจากบล๊อกนี้ เพราะคำถามเหมือนกันเด๊ะ ... ดังนั้นเมื่อเขาได้ไปเขาก็กลับมาแบ่งปัน .... ชื่นชมๆครับ ... พี่นก)


ต้องขอบคุณบล็อกดีๆมีประโยชน์ที่คุณพ่อได้ทำขึ้น เพราะว่าความรู้ทั้งที่สอบข้อเขียนและสัมภาษณ์อยู่ในนั้นทั้งหมดเลย ขอเล่าให้ฟังนะครับเผื่อจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย ตอนที่สอบข้อเขียน (ตำแหน่งMWD/LWD) ข้อสอบนี่เหมือนกับที่เพื่อนคนหนึ่งที่เคยไปสอบที่ Halliburton เข้าไปโพสไว้เป๊ะเลย! เห็นแล้วคิดในใจ รอบแรกผ่านแน่เลยเพราะเตรียมตัวมาดีข้อสอบก็มี Geo, Basic electrical, Mechanics แล้วก็ความรู้ Computer ทั่วไปครับ ส่วนคำถามที่ออกสอบยังไงนั้นดูได้ในบล็อกเลยครับ

ผ่านไปถึงช่วงรอเรียกสัมภาษณ์รอบสอง....ดีใจมากได้เข้าไปสัมภาษณ์พอไปถึงที่บ.เจอคนที่ไปสอบข้อเขียนด้วยกันเกือบหมดเลย (คิดในใจว่าข้อสอบมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ สงสัยงานนี้มีแต่เทพๆแน่เลย) คราวนี้นั่งรอสัมภาษณ์ชวนคนโน้นคนนี้คุยเล่นไปเรื่อย ตอนเรียกไปสัมภาษณ์เป็นคนไทย1คน (ตำแหน่งน่าจะใหญ่อยู่) ฝรั่ง1คน (Indochaina Manager) ตอนสัมภาษณ์ก็ให้แนะนำตัวคร่าวๆก่อน ผมก็แนะนำ เรียนอะไรมา ทำอะไรมาบ้าง งานอดิเรก ชอบเล่นกีฬาอะไร (โอ้!อันนี้ยาวเลย) เพราะผมบอกว่าผมเล่นยูโดกับฟุตบอล เหมือกับว่าคุณหัวหน้าฝรั่งแกคงจะชอบหงษ์แดงเหมือนผมเพราะคุยกันว่าฟร์อมการเล่นอันห่วยแตกงี้มาได้ไงผมก็เล่าๆ บลา...บลา.... แล้วก็ถามว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับตำแหน่งนี้บ้างผมตื่นเต้นมากตอบไปนี่ไม่ถึง 20% ของที่ผมรู้เลย (ผมอ่านเตรียมมาเยอะเลยครับ) แล้วก็ถามว่าส่วนที่คิดว่าตัวเองมีค่อนข้างจะเยอะน่ะคืออะไร ผมก็คิด คิด คิด ไม่มีเลยนี่หว่า ความรู้ก็ไม่ใช่ หน้าตานี่ยิ่งไม่ใช่เลย อิอิ... เลยตอบไปว่า Sense of humor ครับเพราะเพื่อนๆผมชอบบอกว่าผมเป็นคนตลกครับ(อารมณ์ว่าอยู่กับมรึงนี่มีขำ)งานนี้ฝรั่งพี่แกขำเลยกคงนึกว่าจะตอบอย่างอื่นมั้งครับ แล้วก็ถามจะออกไปอยู่คนเดียวได้ไหมกลางทะเลเลยนะ ติดบ้านป่าว โน่นนี่นั่น ว่ากันไป....จนมาถึงคำถามสุดท้ายพี่คนไทยก็ถามประมาณว่าถ้ามีเครื่องมืออยู่เครื่องมือหนึ่งที่ไม่สามารถทำงานได้คุณจะมีวิธีการอย่างไรที่จะจัดการกับเครื่องมือนั้น ผมตอบไป บลา...บลา...จนคิดไม่ออกเลยบอกไปว่าถ้าผมทำเองไม่ได้ผมจะยืมมือ Professional เพื่อแก้ปัญหาให้มันลุล่วงไปครับ

แล้วการสัมภาษณ์ก็จบลงใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเองครับ สัมภาษณ์ออกมาคิดในใจถ้าได้นี่ก็เหลือเชื่อมากเพราะผมว่าผมตอบแทบหาสาระดีๆไม่ค่อยจะเจอเลยครับ เค้าบอกว่าผลจะออกอีกอาทิตย์นึง

อีกอาทิตย์บ.โทรมาผมคิดในใจว่าจะเรียกไปสอบต่ำแหน่งอื่นอีกรึป่าว หรือโทรมาแสดงความเสียใจว่าสอบไม่ผ่าน แต่...ผมติดครับ ช็อกโลกยังกับหงษ์แดงชนะแมนยู เค้าบอกเงิอนเดือนคร่าวๆ ช่วงโปรกี่เดือน แต่ยังไม่เซ็นสัญญายาวครับ เค้าบอกว่าถ้าไม่ผ่านการประเมินหลังจากส่งไปฝึกก็ไม้ได้ทำงานต่อ อันนี้ถามคุณพ่อหน่อยครับว่ามันยากไม๊ครับเทรนงานตำแหน่งนี้(Associate field professional LWD)? ก็เป็นการshareประสบการณ์นะครับ

(แอบดีใจเล็กๆที่งานอดิเรก(บล๊อก)ของผม ได้สร้างอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นได้บ้าง ... มันยากไม๊ครับเทรนงานตำแหน่งนี้(Associate field professional LWD)? มันก็ตอบยากนะครับ ถ้าถามผมในฐานะคนที่ผ่านมาแล้ว (ผม อดีต wireline สีน้ำเงิ๊นน้ำเงิน) ผมว่าไม่ยากหรอกครับ คุณต้องหมั่นศึกษา อดทน หมั่นถาม เรื่องหลับเรื่องนอนเรื่องกิน เอาไว้ทีหลัง ตื่นก่อนผู้ฝึก แต่นอนทีหลัง กินทีหลัง ถ้าเขาไม่ชวนไปกินด้วยกันก็ ถ่อมตัวไว้ก่อนไม่ต้องไป ค่อยไปทีหลัง ถ้าชวนแล้วค่อยไป ถ้าหิวก็เหน็บขนมปังก้อนๆ มาม่ายับๆขยุ้มๆใส่ชุดหมีไว้ งัดขึ้นมาโซ้ยตบน้ำตามพอไม่ให้หน้ามืด(ถ้าต้องทำงานต่อเนื่องข้ามมื้อหรือข้าม 2-3 มื้อ) เหน็บปากกากับสมุดจด(tally book) ไว้ตลอดเวลา ไม่เข้าใจอะไรทำไม ถามๆๆๆๆ แต่ดูอารมณ์คนถูกถามด้วย ถ้าเครียดหรือกำลังลุ้น หรือโดน company man ด่ามาก็รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง อันนี้สอนกันลำบาก พอได้จังหวะก็ถามใหม่ ถ้าโดนถาม ก็ตอบ ถ้าตอบไม่ได้ก็อย่าแถ บอกว่า "ไม่ทราบครับ" ไปโลด เป็น trainee ก็สบายอย่างนี้ ไม่มีฟอร์มเลยไม่ต้องกลัวเสียฟอร์ม ช่วยหยิบช่วยจับ อย่าดูดาย เขาอาจจะลืมไปว่ามีคุณเป็นตัวแถมอยู่ตรงนั้น ก็ถามดื้อๆว่าเช้านี้ให้ผมช่วยอะไรบ้างครับ อะไรแบบนี้ (What can I help you today? เอาเวอร์ชั่นปะกิดง่ายๆไปก่อน) ไม่ใช่ว่า เออดี ไม่ใช้กู กูก็ไม่ทำ ฟังไทยหรือฝรั่งไม่รู้เรื่องไม่แน่ใจว่าเข้าใจคำสั่งหรือเปล่าก็อย่าอายถาม ถ้าฝรั่งก็ให้เขาพูดใหม่อีกหนก็ได้ เช่น Sorry, may you say that again?

ก็ประมาณนี้แหละ ถ้าคุณไม่หลับหูหลับตาอู้งาน และสมองทื่อจนเกินไป ผมว่าคุณผ่านแน่ๆครับ ... ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชีวิตคนน้ำมัน (Oil man) ...พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร)




(มีเพื่อนเราที่ไปทำงานด้านไอทีอยู่ต่างประเทศ อยากเอาประสบการณ์มาแบ่งปันก็ ผมเลยเอามาไว้ที่นี่ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับพวกเราบ้าง ลีลาเล่าเรื่องไม่เบาทีเดียวเลยนะครับ)

ขอฝากความรู้เรื่องทำงานด้านไอทีหน่อยนะครับ เผื่อมีใครแวะมาเจอเหมือนผม พอดีผมก็ทำงานด้านไอทีที่ ตปท ก็หลายปีละ ก็อยู่ละแวกเอเชียนี่แหละครับ แต่พอดีเงินดีกว่าเมืองไทยสักสาม สี่เท่า ก็เลยลองเสี่ยงโชคมาดู ก็จะกลับเมืองไทย ไปอยูกับลูกน้อยแล้ว คิดไปแล้วถ้ามีเงินสิบล้าน ยี่สิบล้านก็คงแลกกับช่วงเวลาที่เราจะดูแลเขาตอนกำลังเติบโตไม่ได้ ก็เลยคิดจะกลับเมืองไทยแล้ว

แต่อยากจะอยากฝากบอก คนที่คิดทำงานต่างประเทศ ด้านไอทีนะครับ

อย่างแรก คือภาษา คือไม่ต้องได้คะแนนโทอิค โทเฟิล ห้าร้อย หกร้อย เจ็ดร้อย คะแนนหรอกครับ แค่สื่อสารกันได้ก็พอ คือต้องสนทนา ผ่านโทรศัพท์ได้ แค่นี้ พอ

อย่างที่สอง ใบcertificate ในแต่ละสาขา สำคัญมากเนื่องจากเขาไม่ได้ดูสถาบันว่าจบมาจากไหน ผมยกตัวอย่างง่ายๆ มีใครรู้บ้างมั้ยว่า มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง ว่าชื่อไรบ้าง ส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้หรอกครับ เพราะฉะนั้น ใบ เซอร์นี่ สำคัญมาก อีกอย่างบางคนกลัวว่า เกรดน้อย แล้ว จะไม่ได้งาน เอ้อ ขอโทษนะครับ ผมเกรดเฉลี่ย 2.01 เลย ใครน้อยกว่านี้ยกมือขึ้น ผมน่าจะหาไม่มีนะ

อย่างที่สาม ต้องเตรียม resume ให้สวยงาม บอกชื่อโปรเจ็คท์ที่เราทำอยู่ job description และเราต้องอธิบายได้เมื่อเขาโทรมาสัมภาษณ์ ส่วนเรื่องรูปถ่ายของเรานี่บางทีเขาก็ไม่สน เพราะบางประเทศจะมี ก.ม.ว่า ห้ามเลือกพนักงาน จากรูปร่างหน้าตา น.น. ส่วนสูง เชื้อชาติ และสีผิว ฉะนั้นจะเห็นได้ว่ามีการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์กันค่อนข้างเยอะ ไม่เหมือนบางประเทศ ชอบเลือกหน้าตากันก่อน ยิ่งผู้หญิงหน้าตาดีละก็เข้าทางเขาเลย ห้าๆๆ

อย่างที่สี่ เอเยนต์ ถ้าเราฝาก resume ให้ช่วยหางานให้ จะหางานให้เราเร็วกว่าที่เราจะหาเองตามอินเตอร์เนต ไม่ต้องจ่ายค่าเอเยนต์นะ เอเยนต์เขาจะไปคิดเงินบริษัทที่จ้างเราเองอีกที

คงหมดแล้วหลักๆ คงมีเท่านี้ ถ้าผ่านรอบสัมภาษณ์แล้ว ควรถามค่า settle down คือค่าที่บริษัทควรจะจ่ายให้เราสำหรับเราไปตั้งต้นที่นั่น อีกอย่างคือตั่วเครื่องบินรายปี และโบนัสควรถามให้เข้าใจอย่างละเอียด ส่วนการคิดรายได้ ก็ให้คิดอย่างนี้ สมมติว่าได้ สามพันเหรียญ ยูเอส ก็หักภาษียี่สิบเปอร์เซนต์ ค่าที่พักค่ากินยี่สิบเปอร์เซนต์ เหลือเท่าไรก็ค่อยคิดว่าได้สุทธิเท่าไร แล้วค่อยตัดสินใจว่าไปเมืองนอกแล้วจะคุ้มมั้ย

โชคดีนะครับ ทุกๆท่าน