ขอแนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชีของ ก.พ.

ลิงก์โพสนี้ โพสเมื่อ: 2011-04-11

ลำดับปกติ ┊ เฉพาะโพสแรก ┊ เล็ก กลาง ใหญ่

ขอแนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชีของ ก.พ.

อ้างอิง: กระทำโดย admin โดยการย้ายจากกระดานข่าว แนวข้อสอบ (ภาค ก.) ก.พ. 54 เมื่อเวลา(2011-04-26)

1.       สินค้าชนิดใดที่ไม่อนุญาตให้เก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน

ก.   ของที่วางประกันค่าอากรไว้แล้ว                      ข.   ของที่ได้รับการยกเว้นอากร

ค.   ของต้องห้าม                                                         ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.    สินค้าหรือของตาม   (ก)   (ข) และ (ค) เป็นของที่ต้องห้ามเด็ดขาดไม่ให้เก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน

2.       ท่านได้รับสิทธิพิเศษในการนำเข้าสินค้าเข้ามาผลิตแล้วส่งออกไปยังต่างประเทศโดยไม่ต้องเสียภาษี ขาเข้าและภาษีขาออก เป็นเงื่อนไขข้อใด

ก. เขตอุตสาหกรรมส่งออก (Export Processing Zone)

ข. คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงงานผลิตสินค้า

ค. คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทปลอดอากร

ง.   กิจการที่ได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีอากรจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment)

ตอบ   ก.   Export Processing Zone   จะต้องมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรคอยกำกับดูแลอยู่ตลอดเวลา       เพื่อเช็คสินค้าที่นำเข้าผลิตแล้วส่งออไป

3.       สินค้าผ่านแดนจะต้องมีเอกสารฉบับใดเป็นสำคัญ

ก. ใบตราส่งชนิด Through Bill of lading

ข. บัญชีสินค้าและเอกสารอื่นที่แสดงเมืองท่าต้นทาง และปลายทางต่างๆ

ค. ใบมอบอำนาจจากตัวแทนของผู้รับปลายทางในต่างประเทศ

ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง.    สินค้าผ่านแดนจะต้องมีเอกสารทั้ง 3 ฉบับ ตาม (ก) (ข) และ (ค) เป็นสำคัญ

4.       สินค้าบางประเภทที่กรมศุลกากรกำหนดระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการขนถ่าย สถานที่เก็บและการตรวจปล่อยไว้โดยเฉพาะ คือสินค้าประเภทใด

ก. ของกอง (Bulk Goods)

ข. ของที่มีน้ำหนักมาก เช่น เครื่องจักรขนาดใหญ่ ตัวโรงงาน

ค. เนื้อทอง เนื้อเงิน เหรียญกษาปณ์ และธนบัตร

ง.   ของพิเศษ

ตอบ   ง.     “ของพิเศษ” ได้แก่ ของบางประเภทที่กรมศุลกากรได้กำหนดระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับ การขนถ่ายของ สถานที่เก็บของ และการตรวจปล่อยของไว้โดยเฉพาะเป็นพิเศษ

5.       การคิดภาษีขาเข้า พิจารณาจากองค์ประกอบใด

ก.   พิกัดอัตราศุลกากรสำหรับของนั้น   ข.   สภาพของ

ค.   ราคาของ                                                               ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.    การคำนวณค่าภาษีสำหรับสินค้าขาเข้า ให้ถือตามสภาพของ ราคาของ และพิกัดอัตราศุลกากรที่เป็นอยู่ในเวลาที่ความรับผิดชอบในอันที่จะเสียค่าภาษีเกิดขึ้น

6.       เรือค่าชายฝั่งที่ต้องการนำสินค้าออกไปขายยังต่างประเทศจะต้องปฏิบัติพิธีการศุลกากรอย่างไร

ก. ต้องวางเงินค่าภาษีขาออกเต็มจำนวน ณ ท่าที่ได้รับการปล่อยเรือ

ข. ยื่นใบขนสินค้าชายฝั่ง

ค. เรือออกตากรุงเทพฯ มีค่าภาษีไม่เกิน 1,000 บาท ได้รับยกเว้น

ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง.             เรือสินค้าชายฝั่งที่จะนำสินค้าออกขายต่างประเทศนั้น ก่อนที่จะบรรทุกของใดลงในเรือ ให้ยื่นใบขนสินค้าชายฝั่ง   (ใบแนบ 10) รวมทั้งต้องวางเงินมัดจำค่าอาหารไว้เต็มตามจำนวนที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้

7.       การส่งเสริมและการส่งออกมีผลกระทบต่อระบบการเก็บภาษีศุลกากร คือ

ก. กรมศุลกากรสามารถเก็บภาษีได้น้อยลงเนื่องจากมีข้อยกเว้นภาษีหลายชนิด

ข. กรมศุลกากรเก็บภาษีได้น้อยลงเนื่องจากมีข้อยกเว้นภาษีหลายชนิด

ค. การยกเว้นภาษีหลายประเภททำให้รัฐขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษี

ง.   ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อระบบการเก็บภาษีศุลกากร

ตอบ   ค.    การส่งเสริมการส่งออกแม้จะทำให้รัฐขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษีไปบ้าง แต่จะมีผลในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อันเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล

8.       ในขณะที่ท่านเป็นบริษัทผลิตยารักษาโรค ท่าต้องการสั่งซื้อมอร์ฟีนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นส่วนผสมในการผลิตยา ท่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร

ก. ติดต่อกับบริษัทที่ขายสินค้าดังกล่าวขอให้จัดส่งมายังประเทศไทยโดยด่วน

ข. ขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อสั่งสินค้าดังกล่าว

ค. ขออนุญาตกระทรวงมหาดไทย เพราะสินค้าดังกล่าวเป็นสิ่งที่เสพย์ติดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ

ง.   ท่าสามารถสั่งซื้อได้ทันทีที่ต้องการ เนื่องจากเป็นของจำเป็นในการรักษาโรค

ตอบ   ข.      การนำยาเสพติดให้โทษเข้าและออกนอกประเทศ ต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน

9.       เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการขนส่งสินค้าทางเรือ กรมศุลกากรเลือกวิธีปฏิบัติข้อใด

ก. อนุมัติให้เอกชนจัดตั้งสถานที่ตรวจและบรรจุสินค้าเข้าคอนเทนเนอร์เพื่อส่งออกนอกเขตท่าเรือกรุงเทพฯ

ข. อนุมัติให้เอกชนจัดตั้งท่าเรือนอกทำเนียบได้

ค. อนุมัติให้นำเข้าสินค้าบางชนิดนอกเขตท่าเรือกรุงเทพฯ

ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ   ก.     การอนุมัติให้เอกชนจัดตั้งสถานที่ดังกล่าว ก็เพื่อเป็นการผ่อนคลายความแออัดคับคั่งในเขตพื้นที่ของการ ท่าเรือแห่งประเทศไทย

10.    กรมศุลกากรมีหน้าที่ดังนี้คือ

ก. เก็บภาษีการค้าระหว่างประเทศ

ข. เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรเพื่อกรมสรรพากร

ค. เก็บสรรพสามิตตาม พ.ร.บ. สรรพสามิต พ.ศ. 2537 เพื่อกรมสรรพสามิต

ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ   ข.      กรมศุลกากรมีหน้าที่คือ เก็บภาษีขาเข้าให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยและก็ป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีภาษี ดังนั้นเมื่อมีสินค้าเข้ามาในประเทศ กรมศุลกากรก็จะทำการจัดเก็บภาษีโดยอาจจะมีทั้งภาษีขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตรวมกันก็ได้ เมื่อเก็บภาษีได้แล้วก็ค่อยนำส่งไปให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

11.    “ผู้ส่งออกของเงินชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร” เป็นสิทธิประโยชน์ข้อใด

ก.   มาตรา   19   ทวิ                                                    ข.   มุมน้ำเงิน

ค. B.O.I.                                                                     ง.   คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงงานผลิตสินค้า

ตอบ ข.   การขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร (มุมน้ำเงิน) เป็นสิทธิประโยชน์ที่กรมศุลกากรให้แก่ผู้นำเข้าสินค้าเพื่อผลิตและส่งออก ซึ่งการชดเชยภาษีนั้นกรมศุลกากรจะออกให้เป็น “บัตรภาษี” และบัตรภาษีนั้นจะมีอายุ 3 ปี นับตั้งแต่วันออกบัตร (แต่อาจขอต่อความได้คราวละ 3 ปี ไม่เกิน 2 คราว)

12.    “บัตรภาษี” มีอายุการใช้งานนานเท่าไร

ก.   2 ปี                                                                        ข.   3 ปี

ค.   6 ปี                                                                        ง.   9 ปี

ตอบ ข.

13.    ท่าสั่งสินค้าเข้ามาราคา 500,000 บาท เสียภาษีขาเข้า 50,000 บาท ตรวจพบว่าสินค้านั้นบกพร่องจึงส่งกลับไปซ่อม   เมื่อซ่อมเสร็จแล้วผู้ขายส่งกลับมาให้ใหม่ แล้วแจ้งว่าข้อมูลของสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 700,000 บาท เมื่อไปรับสินค้าจากกรมศุลกากรท่านจะต้องเสียภาษีเท่าไร

ก.   เสียภาษีอีก 70,000   บาท                  ข.   เสียภาษีอีก 20,000 บาท

ค.   ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม                                             ง.   ให้ผู้ขายเป็นผู้จ่ายค่าภาษีเพิ่มขึ้น

ตอบ ข.    ของที่นำเข้ามาโดยเสียอากรครบถ้วนแล้ว เมื่อส่งออกไปซ่อม ณ ต่างประเทศแล้วนำกลับเข้ามาจะได้รับยกเว้นอากรเพียงเท่าราคาแห่งของเดิมที่ส่งออกไปเท่านั้น สำหรับราคาที่เพิ่มขึ้นให้เสียอากรตามพิกัดอัตราอากรเพียงเท่าราคาแห่งของเดิมที่ส่งออกไปซ่อม (คือ 10%) โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายในการขนส่งและการประกันภัย (200,000 ×10% = 20,000 บาท)

14.    สินค้าส่งกลับที่อยู่ในอารักขาของกรมศุลกากร ผู้นำเข้าต้องชำระค่าอากรเป็นเงินเท่าใด

ก. ต้องชำระค่าอากรหนึ่งในสิบส่วนของค่าอากรที่จ่ายไปแล้ว

ข. ขอคืนค่าอากรที่จ่ายไปแล้วเก้าในสิบส่วน

ค. ขอคืนอากรส่วนที่เกิน 1,000 บาท

ง.   ไม่ต้องเสียอากรทั้งขาเข้าและขาออก

ตอบ   ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง         สินค้าส่งกลับ (Re – Export)   ถ้าเป็น “ของในอารักขา” เมื่อจำเป็นต้องส่งกลับคืนจะต้องชำระอากร 1,000 บาท ไม่ว่าสินค้านั้นจะมีมูลค่ามากเท่าไร ก็ตาม แต่ถ้าเป็นนอกอารักขาจะได้รับคืนอากรขาเข้า 9 ใน 10 ส่วน หรือส่วนที่เกิน 1,000 บาท แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า

15.    ข้อใดเป็นของที่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้า

ก. เครื่องเรือนที่ใช้แล้ว ซึ่งเจ้าของนำมาพร้อมกับตนเนื่องจากการย้ายภูมิลำเนา

ข. รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาตินำเข้ามาใช้ส่วนตัว

ค. เครื่องดนตรีที่นักแสดงนำเข้ามาแสดงคอนเสิร์ต

ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง.     ทั้งหมดที่เป็นของได้รับยกเว้นอากรขาเข้าประเภทที่ 6, 10 และ 3 ตามลำดับ

16.    บริษัทผลิตยารักษาโรคได้สั่งซื้อฝิ่นดิบจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตยา ทางบริษัทจะปฏิบัติอย่างไร

ก. สั่งซื้อได้ทันทีที่ต้องการเนื่องจากเป็นของจำเป็นใช้ในการผสมยา

ข. ขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย เพราะสินค้าดังกล่าวเป็นสิ่งเสพย์ติดเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ

ค. ติดต่อกับบริษัทที่ขายสินค้าดังกล่าว ขอให้จัดส่งมายังประเทศไทยโดยด่วน

ง.   ขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อซื้อสินค้าดังกล่าว

ตอบ   ง.

17.    ผู้บริโภคทุกคนจะต้องจ่ายภาษีเข้าสำหรับสินค้าทุกชนิดทั้งที่สินค้านั้นผลิตภายในประเทศส่วนที่เกี่ยวกับภาษีขาเข้า คือ

ก.   เครื่องจักร                                                             ข.   วัตถุดิบ

ค.   เทคโนโลยี                                                            ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.    ภาษีอากรขาเข้าทุกชนิดที่ผู้นำเข้าต้องเสียไปนั้น ถ้าผู้นำเข้าผลักภาระภาษีนั้นไปข้างหน้าภาระภาษีนั้นจะตกอยู่กับผู้บริโภค

18.    งานหลักของกรมศุลกากร คือ

ก.   เก็บภาษีขาเข้าและภาษีขาออก                          ข.   ปราบปรามผู้ลักลอบหนีภาษี

ค.   ป้องกันและหลีกเลี่ยงภาษี                 ง.   ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

19.    ข้อใดเป็นสินเชื่อหลังการส่งออก (Post – Export Financing)

ก. ให้เงินล่วงหน้าการส่งสินค้าตามเลตเตอร์ออฟเครดิต

ข. ให้สินเชื่อเพื่อยืนยันการชำระเงินตามเลตเตอร์ออฟเครดิต

ค. ให้สินเชื่อ Bid Bond

ง.   ให้สินเชื่อจำนำสินค้า

ตอบ   ก.      สินเชื่อหลังการส่งออก มีดังนี้ 1. ให้เงินล่วงหน้าการส่งสินค้าตามเลตเตอร์ออฟเครดิต (Advanced Bill Under L/C) 2. ให้เงินล่วงหน้าตามตั๋วแลกเงิน (Advanced Bill Under L/C )    3. ให้เงินตามตั๋วแลกเงิน (Advanced Bill of Exchange)

20.    ธนาคารใดเป็นผู้แจ้งการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตของผู้ซื้อให้แก่ผู้ขายได้ทราบ

ก.   Confinning Bank                                                ข.   Advising Bank

ค.   Accepting Bank                                  ง.   Issuing Bank

ตอบ ข.    Advising Bank   คือ ธนาคารผู้แจ้งการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C) ของผู้ซื้อเป็นธนาคารที่อยู่ในประเทศผู้ขายซึ่งเป็นผู่รับ L/C จากธนาคารผู้เปิด L/C ของผู้ซื้อ แล้วส่งให้แก่ผู้ขายสินค้ารับได้ทราบ

http://www.testthai1.com จำหน่าย E-BOOK แนวข้อสอบรับราชการ รัฐวิสาหกิจ ทุกหน่วยงาน

จำหน่ายแนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชีของ ก.พ. ที่ 085-0127724

ppp255411 ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

ลิงก์โพสนี้ โพสเมื่อ: 2011-04-11

ขอแนวข้อสอบ

kalayaporn ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

ลิงก์โพสนี้ โพสเมื่อ: 2011-04-11

ขอบคุณค่ะ

casperphone ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

ลิงก์โพสนี้ โพสเมื่อ: 2011-04-13

ขอตัวอย่างข้อสอบเก่านักวิชาการเงินและบัญชี ของ ก.พ.ด้วยนะคะ

oilaaaaa ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

4# โพสเมื่อ: 2011-04-13

ตอบกลับโพสของ (chalisa)

ขอบคุณคะ

oilaaaaa ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

5# โพสเมื่อ: 2011-04-13

ตอบกลับโพส 3 โพสของ (casperphone)

ขอบคุณ

nkafair ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

6# โพสเมื่อ: 2011-04-16

ขอแนวข้อสอบ นักวิชาการการเงิน ภาค ข กพ.ด้วยคะ ขอบคุณค่ะ

bassbest ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

7# โพสเมื่อ: 2011-04-18

ขอด้วยคนค่ะ ขอบคุณค่ะ

++orange++ ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

8# โพสเมื่อ: 2011-04-18

ขอแนวข้อสอบด้วยคนนะคะ

kunya ออฟไลน์

ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I

9# โพสเมื่อ: 2011-04-18

ขอแนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชีด้วยคะ