ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : เก็งข้อสอบ หมวดรถถัง มว.ถ. แห่งกองทัพไทย
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

เก็งข้อสอบ หมวดรถถัง มว.ถ. แห่งกองทัพไทย

1.  การที่จะเป็นผู้นำหน่วยยานเกราะที่มีประสิทธิภาพนั้น  การแสดงออกถึงความเป็นผู้นำหน่วยที่สำคัญคือความตื่นตัวไม่ประมาท  การสนองตอบอย่างรวดเร็ว  ความริเริ่ม  ความมีสามัญสำนึก  และความมีจิตใจรุกรบ  ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อยากทราบว่า  ความริเริ่มคืออะไร

ก.   คือ การปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ข.   คือ ความสามารถในการปฏิบัติอย่างแข็งแรง  ห้าวหาญ

ค.   คือ การที่  ผบ.มว. เข้าใจเจตนารมณ์ในการปฏิบัติของ  ผบ.ร้อย. เป็นอย่างดี 

ง.   คือ การก่อให้เกิดโอกาสโดยไม่ต้องมีใครสั่งการและความสามารถในการเห็นว่าสิ่งใดผิดและทำการแก้ไข 

2.  ในขั้นตอนการรับมอบภารกิจและวิเคราะห์ภารกิจ  เมื่อ  ผบ.มว. ได้รับคำสั่งจาก  ผบ.ร้อย. แล้วการนำรายละเอียดในคำสั่งไปปฏิบัตินั้น  ผบ.มว. จะต้องวิเคราะห์ภารกิจแฝงที่จะต้องกระทำเพื่อให้บรรลุภารกิจหลักและหลักที่สำคัญที่จะให้กำลังพลทั้งหมดได้เข้าใจการปฏิบัตินั้น  ผบ.มว. จะต้อง

ก.   เมื่อรับคำสั่งแล้วรีบออกคำสั่งต่อให้  ผบ.รถ  ทราบทันทีโดยใช้คำสั่งกองร้อย 

ข.   ผบ.มว. ต้องแปลงคำสั่งของกองร้อยไปเป็นภาพยุทธวิธีของ ผบ.รถ เสียก่อน 

ค.   ผบ.มว. แจ้งภารกิจของกองร้อยให้กำลังพลทราบ

ง.   ผิดทุกข้อ

3.  ในบางครั้ง  ผบ.มว. อาจจะไม่มีเวลาที่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนระเบียบการนำหน่วยทั้ง 8 ขั้นตอน หรือในบางครั้งหมวดอาจต้องเคลื่อนที่ออกไปและรับคำสั่งทางวิทยุหรือรับคำสั่งเมื่อมีการหยุดหน่วยตามตารางเวลาการแก้ไขของ ผบ.มว. เพื่อบรรลุภารกิจในการปฏิบัติให้สำเร็จนั้น  มว.ถ.  จะต้อง 

ก.   ผบ.ร้อย. จะต้องหาเวลาและโอกาสออกคำสั่งให้ได้โดยเร็วแก่ ผบ.รถ

ข.   ผบ.มว. จะใช้วิธีรวมการในเวลาและ    ตำบลใดตำบลหนึ่งในการออกคำสั่ง 

ค.   มว.ถ.จะต้องมีการฝึกการปฏิบัติอย่างฉับพลัน, การใช้ รปจ. และการฝึกต่างๆ 

ง.   ให้ ผบ.ร้อย. รับผิดชอบในการควบคุมหมวดทั้งหมดเอง

4.  ในการวิเคราะห์ภารกิจของ ผบ.มว. นั้น ผบ.มว. จะต้องตระหนักถึงปัจจัย METT-T และลักษณะภูมิประเทศที่จะเข้าปฏิบัติหลักสำคัญที่ผู้หมวดจะต้องเข้าใจในภารกิจนั้น คือ

ก.   วิธีการที่จะต้องปฏิบัติ 

ข.   เจตนารมณ์ของ ผบ.ร้อย. และ ผบ.พัน. 

ค.   ไม่ต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมเพราะภารกิจของกองร้อยระบุแน่ชัดแล้ว

ง.   ข้อ  ค.  ถูก

5.  รูปขบวน  มว.ถ. มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ  แต่ถ้าหากว่า มว.ถ. ได้รับการคุ้มครองจากส่วนอื่น และภูมิประเทศโล่งแจ้งหรือเป็นเนิน  มว.ถ. จะใช้รูปขบวนแบบใดในการเคลื่อนที่ 

ก.   รูปขั้นบันได                                                   ข.   รูปตัววี 

ค.   รูปลิ่ม                                                              ง.   หน้ากระดาน

6.  เมื่อ  มว.ถ. ปฏิบัติการเป็นอิสระแล้วต้องหยุดหน่วยชั่วคราวในระหว่างการรบ รูปขบวนแบบใดที่จะนำมาใช้

ก.   รูปขบวนก้างปลา                                          ข.   รูปขบวนระวังป้องกันรอบตัว 

ค.   รูปขบวนแถวตอน                                        ง.   รูปขบวนรูปลิ่ม

7.  แบบการยิงของ มว.ถ. นั้น ผบ.มว. จะต้องกำหนดความเร่งด่วนในการยิงต่อเป้าหมายที่ปรากฏขึ้นสำหรับโดยทั่วไปแล้ว ลำดับความเร่งด่วนในการยิงต่อเป้าหมายนั้นควรจะ   

ก.   ยิงต่อเป้าหมายที่อันตรายที่สุดและใกล้ที่สุด 

ข.   ยิงต่อเป้าหมายที่ไกลที่สุด

ค.   ยิงอย่างไรก็ได้ตามใจ ผบ.รถ

ง.   ฟังคำสั่ง ผบ.มว. อย่างเดียวเท่านั้น

8.  ในระหว่างเข้าตีเป้าหมายที่อันตรายที่สุดสำหรับ ถ. คืออะไร 

ก.   รถถัง                                                               ข.   ปืนใหญ่ 

ค.   ปืนกล                                                              ง.   อาวุธต่อสู้รถถัง

9.  แบบพื้นฐานการยิงของรถถังมีกี่แบบ  อะไรบ้าง 

ก.   1  แบบ  คือ  ยิงด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ

ข.   2  แบบ  คือ ยิงตัดกัน  และยิงในเวลากลางคืน

ค.   3  แบบ  คือ ยิงในเวลากลางวัน,  ยิงตรงหน้า  และยิงในเวลากลางคืน 

ง.   3  แบบ  คือ  ยิงตัดกัน,  ยิงตรงหน้า  และยิงทางลึก 

10.  เมื่อข้าศึกกระจายกำลังออกไปเต็มกว้างด้านหน้าของ มว.ถ. แต่มีสิ่งกีดขวางที่ทำให้ ถ. ไม่สามารถยิงออกไปด้านหน้าได้  ถ. คันที่อยู่ซ้ายสุดจะยิงเป้าหมายทางขวา  และ ถ. คันที่อยู่ขวาสุดจะยิงเป้าหมายทางซ้าย  เมื่อเป้าหมายถูกทำลายแล้วการยิงจะเลื่อนมาอยู่ส่วนกลางของรูปขบวนข้าศึก  เรียกการยิงแบบนี้ว่าการยิงแบบใด

ก.   ยิงตรงหน้า                                                     ข.   ยิงตัดกัน 

ค.   ยิงในเวลากลางวัน                                       ง.   ยิงในเวลากลางคืน

11.  เทคนิคการยิงมีกี่แบบ  อะไรบ้าง 

ก.   1  แบบ  คือ การยิงตัดกัน

ข.   6  แบบ  คือ การยิงพร้อมกัน,  ยิงตัดกัน,  ยิงเวลากลางวัน,  ยิงเวลากลางคืน,  ยิงตรวจการณ์  และยิงรวดเร็ว

ค.   5  แบบ  คือ การยิงตัดกัน,  ยิงพร้อมกัน,  ยิงทีละคัน,  ยิงรวดเร็ว  และยิงตรงหน้า 

ง.   3  แบบ  คือ การยิงพร้อมกัน,  การยิงทีละคัน  และการยิงตรวจการณ์ 

12.  เทคนิคการยิงแบบใดที่  มว.ถ. ส่วนใหญ่จะใช้ในระหว่างการเข้าตีเมื่อหน่วยพบกับเป้าหมายจู่โจม 

ก.   การยิงพร้อมกัน                                            ข.   การยิงทีละคัน 

ค.   การยิงทางลึก                                 ง.   การยิงในเวลากลางวัน

13.  เมื่อหมวดอยู่ในที่มั่นตั้งรับมีการป้องกันและระยะยิงอยู่ไกลเกินกว่า 2,000 ม.  จะใช้เทคนิคการยิงแบบใด 

ก.   การยิงตรวจการณ์                                        ข.   การยิงทีละคัน 

ค.   การยิงทางลึก                                 ง.   การยิงในเวลากลางวัน

14.  เทคนิคการยิงแบบใดที่อำนวยให้สามารถตรวจการณ์และช่วยเหลือกันได้มากที่สุด 

ก.   การยิงตรงหน้า                                              ข.   การยิงทางลึก 

ค.   การยิงตรวจการณ์                                        ง.   การยิงตัดกัน

15.  ในการใช้เทคนิคการยิงแบบพิเศษนั้น  การสนับสนุนด้วยการยิงของ มว.ถ. จะนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการส่วนอื่นๆ อย่างไร

ก.   เพื่อให้ส่วนอื่นสามารถควบคุมการยิงของส่วนตนได้ 

ข.   เพื่อข่มที่มั่นของข้าศึกและให้กำลังส่วนอื่นๆ เคลื่อนที่ตะลุมบอนหรือถอนตัวได้ 

ค.   เพื่อทำลายเป้าหมายอย่างจู่โจม

ง.   เพื่อให้การสนับสนุนของส่วนอื่น ๆ ที่เป็นฐานยิงด้วยกัน

16.  การสนับสนุนด้วยการยิงอาจจะกระทำได้โดยวิธีใดบ้าง 

ก.   การยิงตามห้วงเวลาที่กำหนด

ข.   การยิงตามสัญญาณที่เตรียมไว้ล่วงหน้า

ค.   การยิงตามคำสั่งยิงขั้นต่อไป                       ง.   ถูกทุกข้อ 

17.  เมื่อ  มว.ถ. ต้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ผบ.มว. จะพิจารณาปัจจัยอะไรบ้างเพื่อมากำหนดระดับของการระวังป้องกันที่จะทำให้  มว. ดำรงอยู่ได้

ก.   ข้าศึกและที่ตั้งฝ่ายเรา 

ข.   ข้าศึก  ภูมิประเทศ  และความต้องการในการพักผ่อนของทหาร 

ค.   สถานการณ์ทางยุทธวิธี                               ง.   ภูมิประเทศ  ลมฟ้าอากาศ

18.  ในการควบคุมบังคับบัญชากำลังพลภายใน  มว.ถ. ให้มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งใดต่อไปนี้ 

ก.   ความเป็นผู้นำ,  การปฏิบัติฉับพลัน

ข.   การฝึก,  การใช้  รปจ.

ค.   การใช้มาตรการควบคุมและการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 

ง.   ถูกทุกข้อ 

19.  ในลักษณะความเป็นผู้นำหน่วยยานเกราะของ ผบ.มว.ถ. นั้น ความตื่นตัวและไม่ประมาทก็เป็นลักษณะของความเป็นผู้นำอย่างหนึ่ง  โดยมีหลักปฏิบัติคืออะไร 

ก.   การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงแผนได้อย่างรวดเร็ว 

ข.   ผบ.มว. ต้องทราบถึงเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่และคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้การมองภาพทางยุทธวิธีเป็นส่วนรวม 

ค.   คือ ความสามารถที่จะปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง การก่อโอกาสโดยมาต้องมีใครสั่งการ

ง.   คือ การตัดสินใจอย่างเหมาะสม

20.  เมื่อ  ผบ.มว. ได้ดำเนินการตามระเบียบการนำหน่วยแล้วในขั้นตอนการกำกับดูแลนั้น  สิ่งที่จะประกันความมั่นใจของ ผบ.มว. ได้ว่ากำลังพลทุกนายนั้นมีความเข้าใจและทราบแนวความคิดในการปฏิบัติอย่างดี  จึงจะทำให้โอกาสแห่งความสำเร็จมีมากขึ้น

ก.   การทำความเข้าใจในคำสั่งยุทธการเป็นครั้งที่ 2 

ข.   การอธิบายบนแผนที่และแผ่นบริวารให้ชัดเจน

ค.   ใช้วิธีการสุ่มถามกำลังพล 

ง.   การสรุปและการซักซ้อมการปฏิบัติของกำลังพล 

สนใจสั่งซื้อมาที่ 080-604-2510 ,080-604-2504 หรือ ส่ง SMS / (WhatsApp , LINE)
ส่งเป็นไฟล์เอกสารส่งทางอีเมล์ สามารถนำไปปริ้นเพื่ออ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
ส่งเป็นไฟล์เอกสารทางอีเมล์ *อย่างด่วนภายใน 3 ชม. *อย่างช้าก่อน 24:00 น. ของวันที่โอนเงิน (อย่าลืม! เช็คที่ อีเมลขยะ)
(เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 - 24.00 น.)
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 041-2-34899-2 ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ สาขาถนนสาธุประดิษฐ์ ชื่อบัญชี สายรุ้ง สิงห์ศรี
โอนเงินแล้วแจ้งที่ lookmoo_00@hotmail.com

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   0934903924
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้