ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : อยากได้แนวข้อสอบตำรวจสายปราบปราม
anuwat298 ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ใช้ระดับ I
รายละเอียดผู้ใช้ 

อยากได้แนวข้อสอบตำรวจสายปราบปราม

ข้อสอบ รวมชุดที่ 5 (ปราบปราม)
1.       สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ส่งเสริมให้ท้องถิ่นและชุมชน มีส่วนร่วมในกิจการตำรวจเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา รักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของประชาชนตามความเหมาะสม และความต้องการของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ การดำเนินการมีส่วนร่วมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่.........กำหนด
ก.       ก.ต.ช.                      ข. ก.ตร. ค. กฎกระทรวง                            ง. พระราชกฤษฎีกา
 2.       ข้าราชการตำรวจตำแหน่งใดหรือปฏิบัติหน้าที่ใด จะเป็นข้าราชการตำรวจประเภทไม่มียศให้ตราเป็น
ก.       ก.ต.ช.                      ข. ก.ตร. ค. กฎกระทรวง                            ง. พระราชกฤษฎีกา
 3.       สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนราชการอะไรบ้าง
ก.       สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  และ กองบัญชาการ
ข.       สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการ และ กองบังคับการ
ค.       สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการ , กองบังคับการ และ กองกำกับการ
ง.        สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการ กองบังคับการ , กองกำกับการ และ สถานีตำรวจ
 4.       การแบ่งส่วนราชการและกำหนดอำนาจหน้าที่ตามข้อ 3 ให้ตราเป็น
ก.       พระราชกำหนด          ข. พระราชกฤษฎีกา          ค. กฎกระทรวง    ง. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
 5.       ผู้บังคับบัญชาข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติรองจากนายกรัฐมนตรี หมายถึงผู้ใด
ก.       รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย                   ข. รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย
ค.  ผบ.ตร.                                                          ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
6.       ผู้ใดเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ และเป็นประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ
ก.       นายกรัฐมนตรี  และ ผบ.ตร. ตามลำดับ     ข. นายกรัฐมนตรี 
ค.  ผบ.ตร.  และ นายกรัฐมนตรี ตามลำดับ      ง. ผบ.ตร.
 7.       การประกาศรายชื่อกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิในกฎหมายกำหนดให้ผู้ใดเป็นผู้ประกาศและประกาศในเอกสารใด
ก.       นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศ  และประกาศในระเบียบ ก.ต.ช.
ข.       นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศ  และประกาศใน กฎ ก.ตร.
ค.       นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศ  และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง.        นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศ  และประกาศในสำนักนายกรัฐมนตรี
 8.       ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจหน้าที่ของ ก.ตร. ในการออกกฎ ก.ตร.
ก.       ออกระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือมีมติเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ข.       ออกระเบียบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานเกี่ยวกับการสอบ การบรรจุ การแต่งตั้ง การเลื่อนขั้นเงินเดือน การดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ
ค.       ออกระเบียบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติการอื่นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ง.        ออกระเบียบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานเกี่ยวกับการจ่ายสินบนนำจับ
 9.       ร.ต.ท.สมชายฯ ได้รับแจ้งจากสำนักงานทะเบียนพล ตร.ว่า ตนเองจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2550  จึงได้ตรวจสอบสมุดประวัติแบบ กพ.7 ของตนพบว่า จนท.ผู้บันทึกประวัติได้กรอกข้อมูลคลาดเคลื่อน  โดยความจริงแล้วตนเองเกิดเมื่อวันที่ 2  ก.ย.2501 จะต้องเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2551 จึงได้ยื่นคำร้องขอแก้ทะเบียนประวัติของตนต่อ ผบช.กำลังพล ตร.  ซึ่งก็ตรวจสอบแล้วพบว่าคลาดเคลื่อนจริง  ผบช.กำลังพล ตร. จึงได้สั่งการให้ จนท.กำลังพลทำการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องตามความเป็นจริง  ขอทราบว่า ผบช.กำลังพล มีอำนาจในการสั่งแก้ไขหรือไม่
ก.       สั่งแก้ไขได้  เพราะเป็นข้อผิดพลาดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่
ข.       สั่งแก้ไขได้  ถ้าได้รับความเห็นชอบจาก ผบ.ตร.หรือผู้รักษาราชการแทน
ค.       สั่งแก้ไขไม่ได้  เพราะเป็นอำนาจของ ก.ต.ช.             ง. สั่งแก้ไขไม่ได้  เพราะเป็นอำนาจของ ก.ตร.
10.    กฎ ก.ตร. มีผลใช้บังคับเมื่อใด
ก.       เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา                                                ข. เมื่อพ้น 10 วันนับแต่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค.  เมื่อพ้น 15 วันนับแต่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา                        ง.  เมื่อพ้น 30 วันนับแต่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
 11.  นายสดทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้นางสาวสวย โดยมอบพินัยกรรมให้พระภิกษุสินเก็บรักษาไว้ ต่อมานายสดตาย นายใสมาขอรับพินัยกรรมดังกล่าวไปจากพระภิกษุสิน แต่ไม่ยอมนำออกมาเปิดเผย เพื่อมิให้นางสาวสวยได้รับมรดกตามพินัยกรรมของนายสด เมื่อนางสาวสวยขอพินัยกรรมจากนายใส นายใสก็ไม่ยอมให้ดู นางสาวสวยจึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ร้อยตำรวจโทก้องพนักงานสอบสวนมาสอบถามนายใสที่บ้านถึงเรื่องพินัยกรรม นายใสโกรธจึงพูดว่า “ตำรวจไม่มีความหมายสำหรับกู อยากจับก็มาจับเลยในเมื่อกูไม่ได้กระทำผิด”    ให้วินิจฉัยว่า นายใสจะมีความผิดฐานใด
ก.       นายใสมีความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งพินัยกรรมโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ตาม ปอ.มาตรา 188
ข.       นายใสมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ค.       นายใสมีความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งพินัยกรรมโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ตาม ปอ.มาตรา 188  และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ง.        นายใสไม่มีความผิดฐานใด
 12.  สิบตำรวจตรีสมพรออกตรวจท้องที่โดยมีนายจองคนว่างงานขอตามไปด้วย ระหว่างทางพบนายไวแบกเลื่อยยนต์ผ่านมา สิบตรวจตรีสมพรอยากได้จึงแกล้งกล่าวหานายไวว่ากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วขอยึดเลื่อยยนต์ นายไวไม่ยอม นายจองจึงบอกนายไวว่าตนเองเป็นร้อยตำรวจเอกจอง หากไม่ยอมให้ยึดเลื่อยยนต์จะจับกุม นายไวจำยอมให้คนทั้งสองยึดเลื่อยยนต์ที่ตนได้มาโดยชอบไป สิบตำรวจตรีสมพรกับนายจองนำเลื่อยยนต์ไปขายเอาเงินมาแบ่งกัน ให้วินิจฉัยว่า สิบตำรวจตรีสมพรจะมีความผิดต่อเจ้าพนักงานและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ฐานใดหรือไม่    
ก.       มีความผิดต่อเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ปอ.มาตรา 157
ข.       มีความผิดต่อเจ้าพนักงานข่มขืนใจตาม ปอ.มาตรา 148
ค.       มีความผิดต่อเจ้าพนักงานข่มขืนใจตามปอ.มาตรา148 และเจ้าพนักฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ปอ.มาตรา 157
ง.        มีความผิดต่อเจ้าพนักงานข่มขืนใจตาม ปอ.มาตรา 148 และเจ้าพนักงานเรียกรับเงินตาม ปอ.มาตรา 149
 13.   ตามข้อ 12. นายจองจะมีความผิดต่อเจ้าพนักงานและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ฐานใดหรือไม่
ก.       ผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน , แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและใช้ยศโดยไม่มีสิทธิตาม ปอ.มาตรา 157 ,86 ,145 ,146
ข.       ผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน , แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและใช้ยศโดยไม่มีสิทธิตาม ปอ.มาตรา 148 ,86 ,145 ,146
ค.       ผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน , ใช้ยศโดยไม่มีสิทธิตาม ปอ.มาตรา 148,86 ,145 ,146
ง.        ผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน , แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตาม ปอ.มาตรา 148 ,86 ,145 ,146
 14     ห้างหุ้นส่วนจำกัดว่องไวขนส่ง เป็นผู้รับขนส่งน้ำยางพาราของบริษัทร่ำรวย จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัดว่องไวขนส่ง ได้ให้นายแสงลูกจ้างของตนขับรถยนต์บรรทุกไปรับน้ำยางพาราเต็มคันรถจากบริษัทร่ำรวยจำกัด เพื่อนำไปส่งที่ท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ระหว่างทางนายแสงได้พบนายเดชซึงเป็นเพื่อน จึงชวนนายเดชร่วมกันขนเอาน้ำยางพาราดังกล่าวไปในระหว่างการขนส่งและนำไปจำหน่ายให้แก่บุคคลอื่น แล้วเอาเงินไปแบ่งปันกัน    ให้วินิจฉัยว่า นายแสงจะมีความผิดฐานใด
ก.       มีความผิดฐานลักทรัพย์ ตาม ปอ.มาตรา 334
ข.       มีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ตาม ปอ.มาตรา 335 (7) ,80
ค.       มีความผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง ตาม ปอ.มาตรา 335 (11)
ง.        ไม่มีข้อใดถูก
 15     ตามข้อ 14 นายเดชจะมีความผิดฐานใด
ก.       มีความผิดฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง ตาม ปอ.มาตรา 335 (11)
ข.       มีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ตาม ปอ.มาตรา 335 (7) ,80
ค.       มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนนายแสงลักทรัพย์
ง.        ไม่มีข้อใดถูก
16     นายดำกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกหกเดือนและปรับหนึ่งพันบาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้สองปี นายดำไม่มีเงินชำระค่าปรับจึงถูกกักขังแทนค่าปรับ ระหว่างที่ถูกกักขังแทนค่าปรับนายดำกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จึงถูกฟ้องขอให้ลงโทษในความผิดดังกล่าวและโจทก์มีคำขอให้เพิ่มโทษเพราะเป็นการกระทำความผิดอีก ทั้งขอให้นำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีลักทรัพย์บวกเข้ากับโทษในคดีทำร้ายร่างกาย และขอให้เปลี่ยนการกักขังแทนค่าปรับในความผิดฐานลักทรัพย์เป็นโทษจำคุกด้วย ถ้าศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุกนายดำในความผิดฐานทำร้ายร่างกายมีกำหนดสี่เดือน ศาลจะสั่งให้เพิ่มโทษ บวกโทษที่รอและเปลี่ยนการกักขังแทนค่าปรับเป็นโทษจำคุกตามคำขอของโจทก์ได้หรือไม่
ก.       ศาลจะสั่งให้เพิ่มโทษและเปลี่ยนการกักขังแทนค่าปรับเป็นโทษจำคุกตามคำขอของโจทก์ไม่ได้ แต่บวกโทษที่รอได้
ข.       ศาลจะสั่งให้เพิ่มโทษและเปลี่ยนการกักขังแทนค่าปรับเป็นโทษจำคุกตามคำขอของโจทก์ได้ แต่บวกโทษที่รอไม่ได้
ค.       ศาลจะสั่งให้เพิ่มโทษไม่ได้ แต่เปลี่ยนการกักขังแทนค่าปรับเป็นโทษจำคุกตามคำขอของโจทก์ และบวกโทษที่รอได้
ง.        ศาลจะสั่งให้เพิ่มโทษได้และเปลี่ยนการกักขังแทนค่าปรับเป็นโทษจำคุกตามคำขอของโจทก์ไม่ได้ แต่บวกโทษที่รอได้
 17    นายเหลืองขับรถยนต์บรรทุกดินลูกรังสูงเกินกำหนดพอถึงจุดตรวจซึ่งมีแผงเหล็กเครื่องหมาย “หยุด” ตั้งอยู่กลางถนน สิบตำรวจโทม่วงซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดตรวจนั้นได้เป่านกหวีดและให้สัญญาณหยุดรถ นายเหลืองกลัวถูกจับจึงไม่หยุดรถ แต่กลับเร่งเครื่องยนต์หลีกเครื่องหมายจราจรพุ่งเข้าใส่สิบตำรวจโทม่วงที่ยืนอยู่ แต่สิบตำรวจโทม่วงกระโดดหลบทัน ในขณะที่รถยนต์ที่นายเหลืองขับกำลังจะพุ่งเข้าใส่สิบตำรวจโทม่วงนั้น ร้อยตำรวจโทเขียวหัวหน้าจุดตรวจเห็นเหตุการณ์โดยตลอด ร้อยตำรวจโทเขียวเกรงว่าสิบตำรวจโทม่วงจะได้รับภยันตราย ร้อยตำรวจโทเขียวจึงยิงปืนเข้าใส่ยางรถยนต์ที่นายเหลืองขับ ทำให้ยางรถยนต์ชำรุดเสียหาย  ดังนี้ นายเหลืองจะมีความผิดฐานใดหรือไม่(เนติ 50)
ก.       ผิดฐานพยายามทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตาม ปอ.มาตรา 295 , 80 
ข.       ผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่น่าจะรับอันตราย ตาม ปอ.มาตรา 290 
ค.       ผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตาม ปอ.มาตรา 289(2) , 80 
ง.        ไม่มีความผิด 
 18     ตามข้อ 17 ร้อยตำรวจโทเขียว จะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       ผิดฐานพยายามฆ่านายเหลือง  แต่อ้างเหตุจำเป็นได้
ข.       ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แต่อ้างเหตุจำเป็นได้
ค.       ไม่มีความผิดฐานใด
ง.        ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แต่อ้างเหตุบันดาลโทสะได้
 19    นายแจ่มและนายแจ๋วขับรถยนต์แข่งกันในถนนยามวิกาล ร้อยตำรวจเอกกล้าซึ่งตั้งด่านตรวจได้เรียกให้หยุดแล้วขอตรวจใบอนุญาตขับรถ นายแจ่มนำใบอนุญาตขับรถออกแสดง ปรากฏว่าใบอนุญาตขับรถดังกล่าวเป็นสำเนาซึ่งนายแจ่มถ่ายมาจากต้นฉบับใบอนุญาตขับรถของตนที่ภาพถ่ายหลุดหาย นายแจ่มจึงนำภาพถ่ายของตนมาปิดทับในสำเนาใบอนุญาตขับรถ แล้วอัดกรอบพลาสติกขนาดเท่าใบอนุญาตขับรถที่แท้จริงทั้งนี้เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจและบุคคลทั่วไปหลงเชื่อว่าสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถดังกล่าวเป็นต้นฉบับใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องแท้จริงที่นายทะเบียนเป็นผู้จัดทำขึ้น ส่วนนายแจ๋วมีใบอนุญาตขับรถ แต่ปรากฏว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของนายแจ๋วไม่ใช่แผ่นป้ายทะเบียนที่แท้จริงที่ทางราชการออกให้ เนื่องจากแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของนายแจ๋วที่ทางราชการออกให้ได้หลุดหาย นายแจ๋วจึงทำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ใหม่ให้มีลักษณะ ขนาด ตัวหนังสือ และตัวเลขเหมือนกับแผ่นป้ายทะเบียนที่แท้จริง แล้วนำมาติดไว้กับรถยนต์ของตน       ดังนี้ นายแจ่มจะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       นายแจ่มผิดฐานปลอมเอกสาร
ข.       นายแจ่มมีความผิดใช้เอกสารปลอม
ค.       นายแจ่มมีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
ง.        นายแจ่มไม่มีความผิดฐานใด
 20     ตามข้อ 19 นายแจ๋วจะมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       นายแจ๋วผิดฐานปลอมเอกสาร
ข.       นายแจ๋วมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
ค.       นายแจ๋วมีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
ง.        นายแจ๋วไม่มีความผิดฐานใด
21     นางดาวทำร้ายร่างกายนายเดือนจนได้รับอันตรายแก่กาย พันตำรวจโทเอกชัย พนักงานสอบสวน จึงจับกุมนางดาวเป็นผู้ต้องหาในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย นางดาวกลัวจะติดคุกจึงขอให้พันตำรวจโทเอกชัย พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเจ้าของคดีช่วยเหลือตนโดยเสนอเงินให้ห้าแสนบาท เพื่อเป็นค่าทำพยานหลักฐานให้อ่อนช่วยนางดาวให้พ้นผิด ทำให้พันตำรวจโทเอกชัยโกรธจึงแกล้งเปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฆ่าผู้อื่นแล้วทำสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องเสนอพนักงานอัยการ ต่อมาพนักงานอัยการได้พิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอฟ้องให้ศาลลงโทษ จึงมีคำสั่งไม่ฟ้องนางดาว ให้วินิจฉัยว่า นางดาว มีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       นางดาวมีความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ตามป.อาญา มาตรา 167  
ข.       นางดาวมีความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน ตามป.อาญา มาตรา 145  
ค.       นางดาวไม่มีความผิดฐานฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน เพราะไม่ได้มอบเงินให้จริง ๆ
ง.        ไม่มีข้อใดถูก
 22     ตามข้อ 21  พันตำรวจโทเอกชัย มีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       พันตำรวจโทเอกชัย มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมกระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ ตาม ป.อาญา มาตรา 200 วรรคสอง
ข.       พันตำรวจโทเอกชัย ไม่มีความผิด เพราะข้อหาไม่ใช่ฐานความผิด
ค.        พันตำรวจโทเอกชัย มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน ตาม ปอ.มาตรา 145
ง.        ไม่มีข้อใดถูก
 23     นายใหญ่ตระเตรียมวางแผนฆ่านายอ้วน โดยจะใช้อาวุธปืนสองกระบอกของตน แต่อาวุธปืนที่จะใช้ในการฆ่าได้ถูกคนร้ายลักไปก่อนโดยนายใหญ่ไม่ทราบ นายเล็กต้องการให้นายอ้วนตายเช่นกัน จึงแอบเอาอาวุธปืนของตนไปไว้ที่บ้านนายใหญ่โดยประสงค์ให้นายใหญ่ใช้ยิงนายอ้วนโดยนายเล็กไม่รู้ว่าอาวุธปืนกระบอกนั้นมีผู้แอบเอากระสุนออกจนหมดแล้ว นายน้อยต้องการให้นายอ้วนตายเช่นกัน จึงเอาอาวุธปืนของตนไปไว้ที่บ้านนายใหญ่โดยประสงค์ให้นายใหญ่ใช้ยิงนายอ้วน ต่อมานายใหญ่เห็นอาวุธปืนทั้งสองกระบอกของนายเล็กและนายน้อยวางอยู่ นายใหญ่เข้าใจว่าเป็นอาวุธปืนสองกระบอกของตน นายใหญ่ได้หยิบอาวุธปืนของนายเล็กและเมื่อพบนายอ้วนได้ใช้อาวุธปืนกระบอกนั้นจ้องเล็งจะยิงนายอ้วน ให้วินิจฉัยว่า นายใหญ่ มีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       นายใหญ่ผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายนายอ้วน
ข.       นายใหญ่ผิดฐานพยายามฆ่านายอ้วน
ค.       นายใหญ่ผิดฐานพยายามฆ่านายอ้วนเป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ 
ง.        นายใหญ่ไม่มีความผิด
 24     ตามข้อ 23 นายเล็กมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       นายเล็กผิดฐานร่วมกับนายใหญ่พยายามฆ่านายอ้วน
ข.       นายเล็กไม่ผิดฐานผู้สนับสนุนนายใหญ่และนายน้อยพยายามฆ่านายอ้วน
ค.       นายเล็กผิดฐานผู้สนับสนุนนายใหญ่พยายามฆ่านายอ้วนเป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้
ง.        นายเล็กไม่มีความผิด
 25     ตามข้อ 23 นายน้อยมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก.       นายน้อยผิดฐานร่วมกับนายใหญ่พยายามฆ่านายอ้วน
ข.       นายน้อยไม่ผิดฐานผู้สนับสนุนนายใหญ่และนายน้อยพยายามฆ่านายอ้วน
ค.       นายน้อยผิดฐานสนับสนุนนายใหญ่พยายามฆ่านายอ้วนเป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ 
ง.        นายน้อยไม่มีความผิด
26     ดำเอาเงินไปฝากธนาคารกรุงเทพ  ต่อมาแดงได้เก็บสมุดฝากเงินของดำที่ตกหายได้ จึงปลอมลายมือชื่อเป็นดำ ไปถอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารหลงเชื่อว่าเป็นดำ จึงได้จ่ายเงินให้กับแดงไป ดังนี้ข้อใดถูกต้อง
ก.       ธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานฉ้อโกง
ข.       ดำ เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานฉ้อโกง
ค.       ธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานฉ้อโกง และ ปลอมเอกสาร
ง.        ธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานฉ้อโกง  และความผิดฐานปลอมเอกสาร ส่วนดำเป็นผู้เสียหายความผิดฐานปลอมเอกสาร
 27.    ดำแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า นายแดงร่วมกับนายขาวหลอกลวงเอาเงินของตนเองไปทำให้ได้รับความเสียหาย  จึงแจ้งความร้องทุกข์และมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการจนกว่าคดีจะถึงที่สุด  แต่จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนพบว่ามีน้ำเงินและเหลืองร่วมกระทำผิดกับแดงและขาวในครั้งนี้ด้วย  ดังนี้  พนักงานสอบสวนมีอำนาจดำเนินคดีกับน้ำเงินและขาวหรือไม่
ก.       มีอำนาจ เพราะถือว่าดำผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดแล้ว
ข.       มีอำนาจสอบสวน  เพราะถือว่าเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานตามอำนาจหน้าที่
ค.       ไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะดำไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับน้ำเงินและเหลืองด้วย
ง.        ไม่มีอำนาจสอบสวน  เพราะดำไม่ใช่ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา
 28.    .ส.ดำ ยอมให้นายแดงทำแท้ง แต่ด้วยความประมาททำให้ น.ส.ดำ ถึงความตาย ผู้ใดเป็นผู้มีอำนาจจัดการแทน
. นายขาวบิดาของ น.ส.ดำ                              ข. นางเหลือง มารดาของ น.ส.ดำ

. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข้อ ข.                                ง. ไม่มีข้อใดถูก

 

29.    ดำฝากวิทยุกับแดงที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้แดงนำมาให้ภริยาของดำในจังหวัดนครพนม  เมื่อดำกลับมาถึงบ้านที่นครพนมจึงทราบว่าแดงไม่นำวิทยุมาส่งให้ภริยาตามที่ฝากมา จึงได้ไปสอบถามแดง  แดงปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝาก  ดำจึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนนครพนม  ดังนี้  ผู้ใดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ

ก.       เหตุเกิดนอกราชอาณาจักร  อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ

ข.       เหตุเกิดนอกราชอาณาจักร  แดงไม่มีความผิด

ค.       เหตุเกิดที่นครพนม  พนักงานสอบสวนนครพนมเป็นผู้รับผิดชอบ

ง.        เหตุเกิดต่อเนื่องระหว่างญี่ปุ่นกับนครพนม อัยการสูงสุดหรือผู้รับมอบหมายเป็นผู้รับผิดชอบ

 

30.    ข้อใดถือว่าผู้กระทำความผิดมีเจตนาเล็งเห็นผล

            ก. ดำเกลียดแดงที่เป็นคนชอบนินทาผู้อื่น จึงใช้ไม้หน้าสามตีที่ศีระษะแดงบาดเจ็บสาหัส

            ข. ฟ้าคึกคะนองระหว่างเที่ยวงานสงกรานต์ จึงเอาประทัดยักษ์โยนใส่ฝูงคนมีเสียชีวิตและบาดเจ็บ

            ค. ฟ้าขับรถซิ่งความเร็ว 180 กม./ชม. จนรถมอเตอร์ไซด์ของชมพูคว่ำเสียชีวิต

            ง. กู้ปลอมตัวเป็นเปรตหลอกแสดในซอยเปลี่ยว โดยที่แสดเป็นโรคหัวใจและกู้ไม่รู้มาก่อน จนแสดตกใจตาย

            จ. ถูกทุกข้อ

 

31.    การกระทำข้อใดที่กฎหมายยกเว้นโทษให้

            ก. ดำถูกหลอกให้กินยาหลอนประมาทแล้วคลั่งจนวิ่งไปแทงแดงตาย

            ข. ฟ้าถูกขาวใช้ปืนจ่อหัว บังคับให้บีบคอฟ้าจนตาย

            ค. ม่วงสามีของน้ำตาล ลักต่างหูเพชรของน้ำตาลผู้เป็นภรรยาไปขาย

            ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก

 

32.    ดำเกลียดแดงสุด ๆ และต้องการฆ่าให้ตาย จึงเอายาพิษให้กินโดยหลอกว่าเป็นยาบำรุงกำลัง แดงกินยาพิษเข้าไปจนหมดสติ ดำกลัวจะไม่ตายจริง จึงจับแดงกรอกยาพิษตามเข้าปากไปอีก โดยสิ่งที่ดำกรอกปากแดงไปในคราวนี้ จริงแล้วเป็นยาถอนพิษแต่ดำกลับเข้าใจว่าเป็นยาพิษ แดงจึงรอดตายเพราะยาถอนพิษนี้ ความรับผิดของดำต่อแดงคืออะไร

            ก. ดำกระทำโดยพลาด ตามมาตรา 6  ข. ดำยับยั้งกลับใจตามนัย มาตรา 82

            ค. ดำพยายามฆ่าแดง                                ง. ข้อ ก. และ ค. ถูก

33.    ข้อใดไม่เป็นการคุมขังตามประมวลกฎหมายอาญา

            ก. คุมตัว             ข. ควบคุม          ค. กักกัน                        ง. ขัง

                       

34.    สมศรีหยิบโทรศัพท์มือถือของสมชายมา โดยคิดว่าเป็นเครื่องของตน การกระทำของสมศรีเป็น

            ก. เจตนาลักทรัพย์                                    ข. พยายามลักทรัพย์

            ค. ลักทรัพย์โดยพลาด        ง. ไม่มีความผิด โดยยกเอาความสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเป็นข้อแก้ตัวได้

 

35.    สนใช้ให้เสือหนักไปข่มขืนเนียน โดยสัญญาว่าถ้าทำสำเร็จจะให้รางวัล 10,000 บาท แต่ว่าเสือหนักไม่กระทำตามที่สนใช้ ดังนั้น

            ก. สนและเสือหนักไม่มีความผิด                   ข. สนไม่ผิดแต่เสือหนักผิด

            ค. สนผิดแต่เสือหนักไม่ผิด              ง. สนและเสือหนักผิดทั้งคู่

 

36.    กรณีผู้กระทำความผิดเป็นคนต่างด้าวจะต้องรับโทษในราชอาณาจักรในกรณีใด

            ก. เป็นความผิดประเภทต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

            ข. รัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหาย

            ค. ผู้เสียหายร้องขอให้ลงโทษ                                  ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก

 

37.    การกระทำในข้อใดได้รับการยกเว้นโทษทางอาญา

            ก. สามีขโมยสร้อยคอภรรยาไปขาย  ข. คนบ้าเอามีดไล่แทงแม่ค้าในตลาด

            ค. ด.ช.ฟ้า อายุ 10 ขวบ ขโมยทอฟฟี่จากร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น     ง. ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก

 

38.    ในการลดโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดมาตรส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลงให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก

            ก. 30 ปี                          ข. 20 ปี              ค. 50 ปี                                      ง. 40 ปี

 

39.    นายแดงได้กระทำความผิดอาญาหลายกรรมต่างกัน ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกฐานกระทำชำเราหญิง 5 ปี ฐานชิงทรัพย์ 10 ปี และฐานฆ่าผู้อื่น 15 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงนั้นแล้ว นายแดงจะต้องถูกจำคุกมีกำหนดไม่เกิน

            ก. 10 ปี              ข. 20 ปี              ค. 30 ปี                                      ง. 50 ปี

 

40.    นายก. เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกฐานทำร้ายร่างกายมีกำหนด 1 ปี แต่โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี นาย ก. ได้มากระทำผิดในคดีหลังอีกภายในกำหนด 1 ปี ศาลจะบวกโทษในคดีก่อนเข้ากับคดีนี้ไม่ได้ เมื่อคดีหลังนั้นเป็นความผิดดังต่อไปนี้

            ก. เป็นความผิดที่ศาลในคดีหลังลงโทษปรับสถานเดียว  ข. เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

            ค. เป็นความผิดลหุโทษ                                          ง. ถูกทุกข้อ

 

41     นาย ก. เป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์มาเป็นเวลานาน มีความสามารถทางซ่อมเครื่องยนต์เป็นพิเศษ อยากทราบว่า นาย ก. เป็น

            ก. ผู้ชำนาญการพิเศษ        ข. ผู้เชี่ยวชาญ                 ค. ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ                   ง. ถูกทุกข้อ

 

42     ในกรณีที่อ้างว่าเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ใครเป็นผู้สืบพยานก่อน

            ก. โจทก์ต้องสืบก่อนเพื่อให้จำเลยได้รับโทษ    ข. จำเลยไม่ต้องสืบเพราะถือว่าตัวเองไม่ผิด

            ค. ข้อ ก. และ ข. ถูก                                              ง. ข้อ ก. และ ข. ผิด

 

43     กรณีใดบ้างที่ศาลจะสืบพยานในคราวเดียวกัน 2 คน

            ก. พยานมาพร้อมกัน         ข. พยานขัดกัน       ค. พยานคู่         ง. ประจักษ์พยานตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

 

44     ปัญหาข้อเท็จจริงคือ

            ก. การปรับกฎหมาย                                 ข. การแปลกฎหมาย

            ค. การตีความกฎหมาย                              ง. ข้อโต้แย้งกระทำหรือละเว้นการกระทำ

 

45     ปัญหาที่ว่าสมควรจะรอการลงโทษจำเลยหรือไม่นั้นเกี่ยวกับการใช้ดุลยพินิจของศาลเป็นปัญหา

            ก. ข้อกฎหมาย                ข. ข้อเท็จจริง       ค. ข้อ ก. ถูก                    ง. ผิดหมดทุกข้อ

46     กฎหมายลักษณะพยานเป็นกฎหมายที่จัดอยู่ใน

            ก. กฎหมายเอกชน                                   ข. กฎหมายมหาชน

            ค. ทั้งกฎหมายเอกชนและมหาชน     ง. ไม่มีข้อใดถูก

 

47     การอ้างพยานเอกสารนั้น ถ้าหาต้นฉบับไม่ได้จะต้องปฏิบัติอย่างไร

            ก. ต้องพยายามค้นหาให้พบ                                    ข. ใช้สำเนาที่ไม่ได้รับรองก็ได้

            ค. พยานบุคคลที่รู้ข้อความก็อ้างเป็นพยานได้  ง. พยายามสืบหาผู้ที่ทำเอกสารนั้นให้พบ

 

48     คำพยานผู้เชี่ยวชาญ หากเบิกความขัดกับคำประจักษ์พยานโดยตรง ศาลจะรับฟังคำพยานใด

. พยานผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นพยานตามหลักวิชาการ

. ศาลย่อมฟังพยานโดยตรงยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญ เพราะได้รู้เห็นมาเอง

. รับฟังพยานผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นพยานชั้นหนึ่ง                   ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ค.

 

49     ผู้ชำนาญการพิเศษของตำรวจส่งรายงานการตรวจพิสูจน์ลายมือของจำเลยไปให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนจนฟ้องจำเลยต่อศาลและโจทก์อ้างรายงานนั้นเป็นพยานด้วย ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายดังนี้

. ไม่ต้องส่งสำเนารายงานตรวจลายมือให้จำเลยก่อนวันเบิกความ 3 วัน

. ต้องส่งสำเนารายงานตรวจลายมือให้จำเลย ก่อนเบิกความ 3 วัน

. ต้องส่งสำเนารายงานการตรวจลายมือให้จำเลย ก่อนเบิกความ 6 วัน

. กฎหมายบัญญัติว่าจะส่งหรือไม่ก็ได้

 

50     จำเลยให้การว่าจำเลยทราบฟ้องของโจทก์แล้วขอให้การว่าตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้องคือ 1 ม.ค.2521 จำเลยได้ขับขี่รถยนต์บรรทุกจริง แต่มิได้ขับกินทางเข้าไปในทางของโจทก์ เหตุที่รถของจำเลยไปชนรถนั่งของโจทก์ก็เป็นเพราะความผิดของโจทก์เองเนื่องจากโจทก์ก็ไม่จุดโคมไฟรถยนต์ ทำให้จำเลยไม่เห็นรถยนต์ของโจทก์ขอให้ศาลยกฟ้องประเด็นแห่งคดีคือ

. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2521

. จำเลยขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อชนรถยนต์

. จำเลยมิได้ขับรถกินทางเข้าไปในทางของโจทก์

. ถูกทุกข้อ

 ( พ.ต.ท.ยงยุทธ   ชัยสวัสดิ์  ผู้แต่ง )
 
 
 
เฉลยปราบปราม ชุดที่ 5
1.          

2.           

3.            

4.          

5.          

6.             

7.         

8.           

9.             

10.          

11.       

12.        

13.        

14.       

15.      

16.          

17.     

18.       

19.          

20.          

21.       

22.        

23.        

24.       

25.      

26.          

27.     

28.       

29.          

30.          

31.       

32.        

33.        

34.       

35.      

36.          

37.     

38.       

39.          

40.          

41.       

42.        

43.        

44.       

45.      

46.          

47.     

48.       

49.          

50.          

 

 
 
 
 
 
 
 

รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้