กรมประชาสัมพันธ์ เป็นหน่วย
งานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลไทย ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่เสริมสร้างความเข้าใจ ระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนกับประชาชนด้วยกัน นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่โน้มน้าวชักจูงประชาชน ให้ร่วมมือกับรัฐบาล และหน่วยงานราชการ
ประวัติ
คลิกถูกใจเพื่อรับข้อสอบกรมประชาสัมพันธุ์กรมประชาสัมพันธ์ มีวิวัฒนาการมาจาก “กองโฆษณาการ” ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2476 ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ต่อมาพัฒนาเป็น “สำนักงานโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปีเดียวกัน[3] พัฒนาขึ้นเป็น “กรมโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2483 และพัฒนามาเป็น “กรมประชาสัมพันธ์” ดังเช่นปัจจุบัน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495
ที่ตั้งสำนักงาน
สำนักงานกรมประชาสัมพันธ์ เดิมตั้งอยู่ที่ อาคารหัวมุมถนนราชดำเนิน ติดกับกรมสรรพากร และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นสถานที่เกี่ยวข้องในประวัติศาสตร์ทางการเมืองหลายครั้ง ในการรัฐประหารทุกครั้ง จะเป็นสถานที่แรกๆ ที่ถูกกำลังทหารเข้ายึด รวมทั้งใน เหตุการณ์ 14 ตุลา และ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ก็ถูกประชาชนเข้ายึด [4] หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ อาคารกรมประชาสัมพันธ์ ถูกเพลิงไหม้เสียหายอย่างหนัก จึงย้ายไปตั้ง ณ อาคารเลขที่ 9 ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จนถึงปัจจุบัน
ตราสัญลักษณ์
ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 เล่มที่ 64 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2490 กำหนดเครื่องหมายราชการ "กรมโฆษณาการ" ให้เป็นรูปพระอินทร์เป่าสังข์ เหาะลอยอยู่เหนือเมฆ มีวงกลมล้อมรอบ[5] โดยอิงตามคติในวรรณคดีโบราณว่า พระอินทร์มีหน้าที่เป่าสังข์ชื่อ "ปาญจนันท์" ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นจากบรรทมสินธุ์ในสะดือทะเล เพื่อขึ้นมาปราบเหตุร้ายต่างๆ ในโลก และโดยความเชื่อในศาสนาฮินดู สังข์ถือเป็นมงคลสามประการคือ ถือกำเนิดจากพระพรหม ท้องสังข์เคยเป็นที่ซ่อนคัมภีร์พระเวท และตัวสังข์มีรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ ในพิธีทางศาสนาพราหมณ์ จึงมีการเป่าสังข์เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย สอดคล้องกับหลักการประชาสัมพันธ์ ที่เป็นการเผยแพร่ชี้แจงประชาชนให้เข้าใจอย่างกว้างขวาง และสร้างความเข้าใจอันดี จึงเปรียบได้กับการเป่าสังข์เพื่อเรียกประชุมของเทวดา ตราสัญลักษณ์นี้ใช้สีม่วงเป็นสีหลักของตรา ซึ่งเป็นสีของงานประชาสัมพันธ์ และใช้มาจนกระทั่งเป็นกรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน[6]
ส่วนราชการในสังกัด
ตามพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับล่าสุด เมื่อปี พ.ศ. 2540[7] มีส่วนราชการในสังกัด ดังต่อไปนี้
ตราอัตลักษณ์ของ สทท.
ตราอัตลักษณ์ของ สวท.
คลิกถูกใจเพื่อรับข้อสอบกรมประชาสัมพันธุ์ สำนักเลขานุการกรมประชาสัมพันธ์
กองคลัง
กองการเจ้าหน้าที่
กองกฎหมายและระเบียบ
กองงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กองงาน กกช.)
ศูนย์สารสนเทศการประชาสัมพันธ์
พิพิธภัณฑ์การกระจายเสียง
หอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.)
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ส่วนภูมิภาค
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเพื่อการศึกษา (สวศ.)
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.)
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ส่วนภูมิภาค
สถานีวิทยุโทรทัศน์ไททีวี (ให้เอกชนเช่าสัมปทาน)
สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี (สถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ; ยุติการออกอากาศแล้ว)
สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็นบีที (ร่วมผลิตกับเอกชน)
สำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ
สำนักข่าวแห่งชาติ (สขช.)
สำนักงานที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ
สำนักประชาสัมพันธ์เขต และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 จังหวัดขอนแก่น
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 จังหวัดอุบลราชธานี
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 จังหวัดพิษณุโลก
เว็บไซด์กรมประชาสัมพันธุ์ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 จังหวัดสงขลา
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 จังหวัดจันทบุรี
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 8 จังหวัดกาญจนบุรี
สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์
สถาบันการประชาสัมพันธ์
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
สำนักส่งเสริมและพัฒนางานเทคนิค